วันนี้(วันที่ 12 ธ.ค. 2564) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในไทย ว่า ขณะนี้ได้รับการยืนยันแล้ว 3 คน รายแรกคือ ชายชาวอเมริกันเดินทางมาจากประเทศสเปน รายที่ 2 และ 3 เป็นหญิงไทย เดินทางกลับมาจากไนจีเรีย ส่วนรายที่ 4 เป็นชายไทยเดินทางกลับมาจากประเทศดิอาร์ คองโก อยู่ระหว่างการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผลยังไม่ออกแต่มีแนวโน้มเป็นไปได้สูง
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามดูตัวเลขผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอมิครอนทั่วโลก เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. มีประมาณ 3 พันกว่าคน โดยประเทศแอฟริกาใต้มีตัวเลขสูงสุด รองลงมาคือ อังกฤษ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา แต่เมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากรแล้วไม่ถึงร้อยละ 1
ดังนั้น หากดูแต่ยอดตัวเลขเพียงอย่างเดียวซึ่งเพิ่มขึ้นสูง ทำให้เกิดความกังวล แต่หากดูรายละเอียด จะเห็นว่าหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรก ก็ไม่พบผู้สัมผัสที่ติดเชื้อสักราย สำหรับไทยก็ยังไม่พบผู้สัมผัสติดเชื้อเช่นกัน สถานการณ์การระบาดของทั่วโลกยังเป็นสายพันธุ์เดลตา
ส่วนสายพันธุ์โอมิครอนจะมาแทนที่เดลตาหรือไม่ต้องจับตาดูกันต่อไป ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกกำลังจับตามองและแนะนำด้วยว่าเรากังวลกับสายพันธุ์นี้ได้ แต่ไม่ควรตกใจมากเกินไป
นพ.เฉวตสรร กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์โควิดในไทย สัปดาห์ที่ผ่านมามีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง ผู้เสียชีวิตขึ้นลง 30 - 50 คน คาดว่าค่าเฉลี่ยจะลงมาเรื่อยๆ เรายังพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มงานบุญ งานประเพณี สถานประกอบการ แต่ไม่ใช่กลุ่มก้อนใหญ่ ซึ่งก็ต้องคอยเตือนให้ระวังตัว ไม่ให้วางใจเกินไป แต่ภาพรวมตั้งแต่หลังลอยกระทงก็ไม่พบกลุ่มก้อนที่เกี่ยวเนื่องกัน ถือว่าเป็นความสำเร็จและเป็นความร่วมมือของประชาชนในการป้องกันตนเองในการออกมาร่วมงาน
ส่วนกลุ่มตลาดยังพบ เพราะเป็นสถานที่ที่มีคนหลากหลายเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงทำให้ดูเหมือนว่าผู้ป่วยจากตลาดยังพบได้อยู่ ส่วนตัวเห็นว่าทำได้ขนาดนี้ก็น่าพอใจ ขอให้ยกการ์ดสูงต่อเนื่องกันไป