ไทยพบ "โอมิครอนคลัสเตอร์แรก" โผล่ที่กาฬสินธุ์ ติดแล้ว 22 คน เสี่ยงสูงนับร้อย

24 ธ.ค. 2564 | 06:05 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ธ.ค. 2564 | 00:42 น.

ไทยพบคลัสเตอร์การแพร่ระบาดของโอมิครอนแห่งแรกที่กาฬสินธุ์ ติดแล้วรวม 22 ราย จากคนไทยสามีภรรยาที่เดินทางกลับมาจากเบลเยี่ยม ไทม์ไลน์พบปาร์ตี้รวมญาติและตระเวนในหลายสถานที่ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกร่วมร้อยราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อโอมิครอนในไทยขณะนี้ พุ่งขึ้นสะสม 205 ราย

24 ธ.ค. 64 ที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 12/2564 ว่า พฤติกรรมช่วงปีใหม่ที่มีความน่ากังวล คือ การรวมกลุ่มกันเป็นอันตรายที่สุด ทั้งนี้ ที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เกิด คลัสเตอร์การแพร่ระบาดของโอมิครอน ขึ้นแล้ว  

 

“กรณีนี้เป็นการนำเชื้อโดยผู้ติดเชื้อมาให้คนอื่น ซึ่งมีคำแนะนำชัดเจน DMHTT ไม่ใช้ภาชนะร่วมกัน โดยเฉพาะถังน้ำแข็ง แก้วเหล้า แก้วเครื่องดื่ม รวมถึงฉีดวัคซีนให้ครบโดส ก็ไม่มีปัญหาแน่นอน” นายอนุทิน กล่าวและว่า การติดเชื้อโอมิครอนของผู้ที่เดินทางมากจากต่างประเทศนั้น รู้ต้นตอว่ามาจากไหน แต่หากใครที่เดินทางกลับบ้าน ก็ขอให้ตรวจ ATK ก่อนไปพบผู้อื่นและญาติพี่น้อง อย่างกรณี สามี-ภรรยา จ.กาฬสินธุ์ ที่เดินทางมาจากยุโรป เบื้องต้นตรวจ RT-PCR ไม่พบเชื้อก็กลับกาฬสินธุ์ ต่อจากนั้นไปหาญาติ จ.อุดรธานี แล้วไม่ได้ตรวจซ้ำ ก็ไปแพร่เชื้อต่ออีก 20 ราย ทั้งครอบครัว พนักงานร้านอาหาร และลูกค้าในร้าน  รวมติดเชื้อกรณีนี้แล้ว 22 ราย ทั้งหมดเป็นสายพันธุ์โอมิครอน และยังมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกร่วมร้อยราย ทำให้ตอนนี้ไทยพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนสะสมแล้ว 205 ราย

ด้านนพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีของสามีภรรยาที่ จ.กาฬสินธุ์ ถือเป็นอุทาหรณ์ว่าต้องไม่ประมาท เพราะการเดินทางเข้ามาด้วยระบบ T&G (Test & Go) แม้จะมีการตรวจ RT-CPR ก่อนเข้าไทย 72 ชม. เมื่อเข้าไทยตรวจซ้ำอีกครั้งในรอบ 24 ชม. ก็ยังไม่การันตีว่าจะไม่ติดเชื้อ

 

ทั้งนี้ เพราะอาจอยู่ในช่วงระยะฟักตัวของโรค ฉะนั้น สำหรับคนไทยที่เพิ่งกลับเข้าประเทศมาในช่วง อย่าเพิ่งรีบไปพบญาติ หรือรวมตัวกัน เพราะอาจเสี่ยงติดเชื้อจากช่วงระยะฟักตัว และคนที่มีญาติเพิ่งมาจากต่างประเทศก็อย่าเพิ่งรีบไปเจอ หรือรวมตัวกัน

 

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เคสนี้ถือเป็นอุทาหรณ์อย่างดี ว่าทำไมถึงต้องมีการปรับและระงับมาตรการ T&G ชั่วคราว  ทั้งนี้ ก็เพื่อวางระบบใหม่ เพราะอาจมีเคสแบบนี้หลุดรอดออกจากระบบได้ จึงต้องใช้กลไกการเฝ้าระวังสอบสวนโรคแบบละเอียดเพื่อหาคนใกล้ชิด หรือที่เรียกว่า วง 1 หรือวง 2 รวม ตอนนี้คลัสเตอร์กาฬสินธุ์ 22 คน และเสี่ยงสูงอีกจำนวนมากนับร้อย ถือเป็นคลัสเตอร์แรกที่มีการติดเชื้อในประเทศ และมีการแพร่ระบาดในจังหวัดกาฬสินธุ์และอุดรธานี ต้องสอบไทม์ไลน์อย่างละเอียด สำหรับปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อจากเคสนี้ คือ การรับประทานอาหารร่วมกัน นั่งอยู่ที่อากาศไม่ถ่ายเท หรืออากาศปิด และมีการพูดคุยกันเป็นเวลานาน

นพ.โอภาส ให้คำแนะนำว่า ฉะนั้น การทำกิจกรรมในหมู่ญาติก็ต้องระวัง สวมหน้ากากอนามัย และนั่งในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และอย่าทำกิจกรรมร่วมกันนานเกินไป การตรวจไม่เจอเชื้อทั้ง RT-PCR และ ATK ก็เป็นแค่การยืนยันในวันนั้นวันเดียวว่าไม่เจอเชื้อ ไม่ได้หมายความว่าวันอื่นจะไม่เจอเชื้อ ดังนั้นระบบของ T&G จึงปรับมีการตรวจใหม่ มีการตรวจ RT-CPR 72 ชม. ก่อนเข้าไทย และ ตรวจเมื่อถึงไทย 24 ชม. จากนั้น 5-6-7 วัน จึงค่อยมาตรวจ RT-PCR ซ้ำอีกครั้ง ฉะนั้น คนที่เพิ่งกลับมาอย่าเพิ่งไปไหน เพราะอาจมีความเสี่ยงที่อยู่ในช่วงระยะฝักตัวของเชื้อก็ได้

 

สำหรับไทม์ไลน์การเดินทางของสองสามี-ภรรยาที่เดินทางจากเบลเยียม กลับบ้านที่ จ. กาฬสินธุ์นั้น ฐานเศรษฐกิจเคยนำเสนอไปแล้ว (อ่านเพิ่มเติม: เผยไทม์ไลน์ 2 คนไทยติดโอมิครอนจากเบลเยี่ยม พบเดินทางหลายพื้นที่) ขอนำมาประกอบไว้ตรงนี้อีกครั้ง ดังนี้

  •  9 ธ.ค. 64 ทั้ง 2 ราย ได้รับการตรวจคัดกรองโควิด-19 ก่อนออกเดินทางจากเบลเยี่ยม ผลไม่พบเชื้อ และเดินทางกลับไทย
  • 10 ธ.ค.64 ทั้ง 2 ราย เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ รับการตรวจ RT-PCR พร้อมเข้ารับการกักตัวที่ รร.แพลตทินัม กทม.
  • 11 ธ.ค.64 ผลตรวจไม่พบเชื้อทั้ง 2 ราย จึงเดินทางออกจากที่พักที่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วเดินทางโดยสายการบินไทยสมายล์ ไปยังขอนแก่น เมื่อถึงสนามบินมีญาติ 2 คน นำรถยนต์ส่วนบุคคลมารับ เพื่อเดินทางไปยังกาฬสินธุ์
  • 12 ธ.ค.64 ทั้ง 2 ราย พักอยู่บ้านที่ ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยมีผู้สัมผัสร่วมบ้าน 1 ราย และมีการร่วมรับประทานอาหารกับญาติและครอบครัวอีก 7 ราย ทั้งที่ร้านอาหาร และสถานบันเทิง ใน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
  • 13 ธ.ค.64 ผู้ป่วยชาย เดินทางไปต่อหนังสือเดินทางที่ศาลากลางขอนแก่น พร้อมผู้สัมผัสร่วมยานพาหนะ 2 ราย แต่ขากลับใช้บริการรถตู้สาธารณะจากขอนแก่นกลับมาที่กาฬสินธุ์ ช่วงเย็น ผู้ป่วยชาย เริ่มมีไข้ เหนื่อย ไอเล็กน้อย ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยหญิง เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปสำนักงานที่ดินกาฬสินธุ์ และสำนักงานบังคับคดีกาฬสินธุ์ แล้วเดินทางกลับบ้านที่ชุมชนเกษตรสมบูรณ์ อ.เมือง
  • 14 ธ.ค.64 ผู้ป่วยหญิง เดินทางจากบ้านที่ชุมชนเกษตรสมบูรณ์ อ.เมือง ไปบ้านผู้ป่วยชาย ที่ ต.หลุบ อ.เมือง
  • 15 ธ.ค.64 ผู้ป่วยทั้ง 2 ราย เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปธนาคารกสิกรไทย ในห้างสรรพสินค้าที่กาฬสินธุ์ และไปสำนักงานบังคับคดี ผู้ป่วยหญิง เริ่มมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ผู้ป่วยทั้ง 2 ราย จึงตรวจ ATK ด้วยตัวเอง ผลตรวจเป็นบวก
  • 16 ธ.ค.64 ผู้ป่วยทั้ง 2 ราย เดินทางด้วยรถยนส่วนบุคคล ไปตรวจโควิดที่ รพ.กาฬสินธุ์ แล้วเดินทางกลับบ้านไปรอผล
  • 17 ธ.ค.64 รพ.กาฬสินธุ์ แจ้งผลพบเชื้อโควิด จากนั้นจึงส่งตัวอย่างไปตรวจหาสายพันธุ์ด้วยวิธี Genotyping ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอนแก่น ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ได้เข้ามารับการรักษาที่ รพ.กาฬสินธุ์
  • 18 ธ.ค.64 ผู้ป่วยทั้ง 2 ราย ขอย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาล ใน จ.ขอนแก่น โดยเดินทางไปด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล
  • 21 ธ.ค.64 ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอนแก่น แจ้งผลการตรวจของผู้ป่วยทั้ง 2 ราย พบสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสที่เข้าได้กับสายพันธุ์โอมิครอน

ไทยพบ \"โอมิครอนคลัสเตอร์แรก\" โผล่ที่กาฬสินธุ์ ติดแล้ว 22 คน เสี่ยงสูงนับร้อย

ไทยพบ \"โอมิครอนคลัสเตอร์แรก\" โผล่ที่กาฬสินธุ์ ติดแล้ว 22 คน เสี่ยงสูงนับร้อย