ฐานเศรษฐกิจ เกาะติดโปรแกรมการถ่ายทอดสด หรือ Live ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน เอเอฟเอฟซูซุกิคัพ 2020 (AFF Suzuki cup 2020) นัดชิงชนะเลิศนัดที่สองค่ำวันนี้ ซึ่งเป็นการพบกันของ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย พบกับ อินโดนีเซีย
นัดนี้พลพรรคช้างศึกทีมชาติไทย มีความได้เปรียบอย่างมาก เนื่องจาก ตุนประตูไว้ถึง 4 ประตู จากการชนะอินโดนีเซียในการชิงชนะเลิศนัดแรกมากแล้วท่วมท้น 4 ประตูต่อ 0
ซึ่งหากอินโดนีเซียจะพลิกกลับมาคว้าแชมป์ก็ยังมีโอกาส นั่นหมายความว่าต้องยิงประตูทีมชาติไทยให้ได้มากกว่า 5 ประตู อาทิ ชนะ 5 ประตูต่อ 0 ชนะ 6 ประตูต่อ 1 หรือ 7 ประตูต่อ 2 เป็นต้น
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง มีดังนี้
ด้าน แฟนเพจ "ช้างศึก" ได้เปิดเผยภาพการซ้อมของทีมชาติไทยเมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 ธันวาคม 64 ที่ผ่านมา โดยระบุเนื้อหาว่า
90 นาทีสุดท้ายที่สิงคโปร์ ทุกคนพร้อมสู้เพื่อความสุขของแฟนบอลไทย!
ทัพช้างศึก ลงฝึกซ้อมประจำวันท่ามกลางสายฝน เพื่อเตรียมทีมลงเล่นในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง พบกับ อินโดนีเซีย โดยบรรยากาศการซ้อมเต็มไปด้วยรอยยิ้ม สตาฟฟ์โค้ชและนักเตะทุกคนแสดงออกถึงความมุ่งมั่น
มาโน โพลกิ้ง เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวในงานแถลงข่าวก่อนเกมเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง ที่จะพบกับ อินโดนีเซียว่า แน่นอนว่าเรามีเวลาเตรียมทีมสองวันจากเกมก่อน เพราะฉะนั้นเราเน้นที่การฟื้นฟูร่างกาย ส่วนคนที่ไม่ได้เล่นก็ซ้อมตามปกติ เพื่อให้ทุกอย่างพร้อมสำหรับเกม
เราต้องตัดสินใจจัดตัวผู้เล่น เมื่อวานผมได้ย้ำว่ารอบชิงมันยังไม่จบ ผลการแข่งขันที่เราทำได้ดีในเกมแรก ยังต้องทำต่อไปให้ดีอีกเกมหนึ่ง เราต้องการเริ่มเกมให้ดีอีกครั้ง เพื่อจบเลกสองให้สวยงามเหมือนกับเกมแรก
แน่นอนว่านักเตะในทีมต่างทำผลงานได้ดีหมดทุกคน แต่เราปฏิเสธคุณภาพของชนาธิปไม่ได้ เพราะว่าในสนามหรือนอกสนาม เขาสามารถแสดงความเป็นผู้นำที่ดี และคุณภาพเขาแสดงออกมาให้เห็น เขากำลังมีทัวร์นาเมนต์ที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเกมสำคัญของเรา แต่อย่างที่บอกทุกคนต้องพยายามทำแบบชนาธิป ถ้ามีโอกาส ที่จะได้เล่นลีกที่แข็งแกร่งกว่าในบ้านเกิดต้องคว้าโอกาส
สิ่งที่ชนาธิปแสดงให้เห็นคือเขาคว้าโอกาสมาในเจลีก และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในเจลีก เพราะฉะนั้นต้องทำงานหนัก ถ้ามีโอกาสต้องทำให้ได้
เรื่องสัญญาเรายังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ตอนนี้ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ เพราะเป้าหมายของเราคือการคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้ตามที่เราวางไว้ตั้งแต่แรก และเอาของขวัญไปฝากคนไทย
เกมรอบรองที่เจอกับเวียดนาม เลกแรกเรานำไปก่อน 2-0 และเราต้องเจอกับบอลยาวมากขึ้น สถานการณ์ ณ ตอนนั้น คือเราต้องตั้งรับให้แน่น แม้เราไม่ถนัด แต่มันถูกต้อง นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ ในเกมนี้เลกแรกเราเล่นได้ดีที่สุดในทัวร์นาเมนต์ ทำให้เราได้เปรียบมากจากสถานการณ์ตอนนี้ เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาตั้งรับ เราต้องการจบทัวร์นาเมนต์ ในแนวทางที่เราถนัดด้วยการเปิดเกมรุก และครองบอล
เรื่องอนาคตเป็นสิ่งสำคัญ นักเตะที่เพิ่งเข้ามาอย่างวีระเทพที่มาเล่นในรายการนี้ครั้งแรก จะช่วยต่อยอดได้ และทำให้อนาคตของทีมชาติไทยไปในทางที่ดี และต้องรักษาคุณภาพให้ได้
ไม่ใช่แค่วีระเทพเท่านั้น หลายคนทำได้อย่างยอดเยี่ยมอย่าง กฤษดา ที่เพิ่งอายุ 22 ปี และเล่นมาเกือบทุกนัด ในตำแหน่งที่ไม่ได้ถนัด เขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เรามีอนาคตที่ดี มันเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตทีมชาติไทย เรายังมีนักเตะที่ดีอีกมากมาย จากชุด U23 ที่ต้องไปแข่งที่อุซเบกิสถาน ทัวร์นาเมนต์นี้เราไม่ได้มีเวลามากมายในการคิดที่จะซ้อม เราใช้แค่ความรู้จัก สิ่งที่เห็นจากนักเตะ เรารู้จักนักเตะชุดนี้ดี และเรียกตัวมารวมกัน อธิบายแผนการเล่น มีความชัดเจน สุดท้ายมันอยู่ที่นักเตะ
เราต้องให้เครดิตกับพวกเขาที่รับฟังและเข้าใจ ทำได้ตามแผนในช่วงที่ผ่านมา จนถึงนัดชิงชนะเลิศ เลกที่สอง แน่นอนว่าเป้าหมายของเราคือการเอาชนะในนัดชิงชนะเลิศในเกมที่สองก่อน และเราจะบอกว่าอนาคตหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เราต้องชนะในเกมที่สอง เพื่อจบทัวร์นาเมนต์ให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ผลการแข่งขัน
ประตูรวมไทยยังนำ 6 ประตูต่อ 2 คว้าแชมป์สำเร็จ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
ลิงค์ถ่ายทอดสด