วันนี้ (6 ม.ค. 65) เวลา 10.30 น. ที่สํานักงานตํารวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อํานวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สํานักงานตํารวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT, พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท., พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทั่วประเทศ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565
พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ ฯ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วไปและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ 25 ธ.ค.64 - 3 ม.ค.65 เพราะเป็นช่วงที่พี่น้องประชาชนเดินทางกลับบ้าน และมีการสังสรรค์ เกรงจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
ซึ่งจากผลการระดมกวาดล้าง สามารถจับกุมการกระทําความผิดอาชญากรรมทั่วไปได้จํานวน 3,634 ราย การกระทําความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอีก 172 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 356 ล้านบาท โดยพบเป็นเงินทุนหมุนเวียนที่เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ถึง 335 ล้านบาท
พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ ฯ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. หัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 1 พร้อมกําลังสืบสวนปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ รวมถึงการลักลอบจําหน่ายสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น ยาเสพติด อาวุธปืน
ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าร้านค้าออนไลน์หลายรายได้จําหน่ายสิ่งเทียมอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ส่วนประกอบอาวุธปืน ออกไปแล้วจํานวนมาก หลังจากได้เป้าหมายแล้ว ได้ประสานไปยังตํารวจภูธร ภาค 1-9 ตํารวจนครบาล ตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท่องเที่ยว ร่วมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย โดยเน้นไปยังกลุ่มที่สั่งซื้อสิ่งเทียมอาวุธปืน (บีบีกัน)
ส่วนประกอบอาวุธปืน เช่น ลํากล้อง ชุดอุปกรณ์ลั่นไก เพื่อนําไปดัดแปลงให้สามารถยิงกระสุนจริงออกมาได้ และกลุ่มที่สั่งซื้อเครื่องกระสุนปืนเพื่อนําไปใช้กับอาวุธปืนผิดกฎหมายได้ใช้การประกาศโฆษณาขายสินค้าโดยทําการอําพรางชื่อเพื่อป้องกันการถูกตรวจสอบ
โดยในวันที่ 3 ม.ค.65 ได้ทําการปิดล้อมตรวจค้น จํานวน 60 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จํานวน 31 ราย พร้อมของกลาง 5 รายการ ดังนี้
ซึ่งการปิดล้อมตรวจค้นในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 19 พ.ย.64 ชุดปฏิบัติเดียวกันนี้ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นไปแล้ว จํานวน 40 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 24 ราย พร้อมของกลาง 6 รายการ คือ
ภาพรวมขณะนี้ได้ทําการตรวจค้นเป้าหมายลักลอบขายอาวุธปืนทางออนไลน์ไปแล้ว 100 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 55 ราย ตรวจยึดของกลางเป็นอาวุธปืนสงคราม 1 กระบอก , อาวุธปืน 72 กระบอก ,วัตถุระเบิดปิงปอง จํานวน 1 ลูก , เครื่องกระสุนปืน จํานวน 2,571 นัด และยาบ้าอีก จํานวน 10,105 เม็ด ยาไอซ์ 3.79 กรัม , กัญชาอัดแท่ง จํานวน 21.34 กรัม
โดยหลังจากนี้จะได้ขยายผลไปยังร้านค้าที่ลักลอบขายปืนบนแพลทฟอร์มออนไลน์ต่อไป
ผอ. PCT กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง มีความห่วงใยในห้วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ประชาชนใช้สื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น อาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย
จึงได้กําชับให้ทุกหน่วยเร่งปราบปรามผู้กระทําผิดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งนี้หากพบเบาะแส หรือเกรงจะตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ สายด่วน PCT 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง 081-8663000 หรือ www.pct.police.go.th