น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
เตรียมรับมือกับโควิดระลอกที่ 4 นำโดยไวรัส Omicron (โอมิครอน) คาดผู้ติดเชื้อสะสมในเดือนแรก (มกราคม65) อยู่ระหว่าง 300,000 ถึง 900,000 ราย
นับจากที่ประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อไวรัส Omicron รายแรก เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564
นับถึงวันนี้เป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็ม พบว่าการเพิ่มของผู้ติดเชื้อไวรัส Omicron ในประเทศไทยอยู่ในระดับเดียวกับที่ต่างประเทศพบคือ เพิ่ม 2 เท่า ทุก 3 วัน
โดยถ้าคิดตามสถิติ จะได้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมประมาณการดังนี้
เมื่อดูตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัส Omicron สะสมจริง พบว่าในวันที่ 2 มกราคม 2565 มีติด Omicron สะสม 1780 ราย มากกว่าที่คำนวณไว้ที่ 512 ราย
ถ้านับว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่การระบาดของโควิดระลอกใหม่คือระลอกที่ 4 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 (จริงๆคือ 29 ธันวาคม 2564)
จะพบว่าใน 6 วันแรกของระลอกนี้ มีผู้ติดโควิดสะสมแล้ว 21,815 ราย ซึ่งเป็นทั้งเชื้อเดลตาและโอมมิครอนผสมปนเปกัน
แต่แนวโน้มโอมมิครอนจะเป็นสายพันธุ์หลักแทนเดลต้าภายในสิ้นเดือนนี้
เมื่อคำนวณเฉพาะโอมมิครอนอย่างเดียว น่าจะติดเชื้อสะสม 260,000 ราย รวมเดลต้าด้วยก็คงไม่ต่ำกว่า 300,000 รายในสิ้นเดือนมกราคมนี้
ก็คือการมีผู้ติดเชื้อรวมทุกสายพันธุ์เฉลี่ยวันละ 10,000 คน ซึ่งเป็นฉากทัศน์ที่ดีที่สุดที่กระทรวงสาธารณสุขประมาณไว้คือวันละ 10,000 คน
แต่ถ้าเป็นกรณีฉากทัศน์ปานกลาง ก็จะติดเชื้อวันละ 15,000 คน ถึงสิ้นเดือนนี้ก็จะมีผู้ติดเชื้อสะสม 450,000 คน
และถ้าฉากทัศน์ที่ค่อนข้างแย่คือ ติดเชื้อวันละ 30,000 คน ก็จะมีการติดเชื้อสะสมของเดือนมกราคม 2565 มากถึง 900,000 คน
ในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อในระลอกที่ 3 (เม.ย.-ธ.ค.2564) มี 2,000,000 คน
ในระลอกที่ 4 หรือระลอกใหม่นี้ ที่เกิดจากโอมมิครอน จึงมีแนวโน้มที่จะเกิน 2,000,000 คนในเวลาที่สั้นกว่า
เพราะโอมิครอนมีความสามารถในการแพร่ระบาดได้มากกว่าเดลต้า 2-5 เท่า
ถ้าใช้ตัวเลขขั้นต่ำคือเร็วกว่า 2 เท่า ระลอกนี้ก็อาจจะมีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 4,000,000 คน
แต่ถ้าใช้ตัวเลขที่เร็วกว่า 5 เท่า ก็จะมีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งระลอกมากถึง 10,000,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เกินเลยความจริงคือ ใกล้เคียงกับประเทศอังกฤษ
นอกจากตัวเลขการติดเชื้อที่ประมาณการดังกล่าวแล้ว สิ่งที่ทุกคนควรรับทราบก็คือ แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก
แต่ผู้ที่จะมีอาการรุนแรงจนต้องนอนโรงพยาบาลหลัก และอาจจะมีการเสียชีวิตนั้น เมื่อคิดเป็นร้อยละแล้ว จะต่ำกว่าไวรัสเดลต้าอย่างน้อย 3-5 เท่า ( 0.1-0.3%)
จึงเป็นการรับทราบข้อมูลทางด้านโรคระบาด เพื่อให้เกิดความตระหนัก ที่จะร่วมแรงร่วมใจกัน ทำให้มีผู้ติดเชื้อให้น้อยลงกว่าที่ประมาณการไว้ให้ได้
เพื่อที่จะทำให้มีผู้ที่จะต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่เกินกำลังศักยภาพที่ระบบสาธารณสุขไทยจะทำได้
ก็จะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม ไม่มากตามที่ประมาณการไว้
ส่งผลให้จำนวนผู้ที่จะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่เกินศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทย
ก็จะทำให้โควิดระลอกที่ 4 สามารถผ่านพ้นไปได้ โดยมีความเสียหายหรือผลกระทบทางลบที่ไม่มากมายนัก