ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยาคลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan วานนี้ (8 ม.ค.) กล่าวเตือนถึงกรณีจำนวน ผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศไทยและทั่วโลกในขณะนี้ ว่า จํานวนผู้ติดเชื้อที่รายงานโอมิครอนจะต่ำกว่าความเป็นจริงมากในทุกประเทศ
ทั้งนี้ เพราะการตรวจจะเป็นการตรวจเพียงว่าเป็นเชื้อโควิด-19 เท่านั้น ไม่ได้แยกสายพันธุ์ การตรวจแยกสายพันธุ์ จะต้องใช้วิธีการที่จำเพาะ เพื่อแยกว่าเป็นสายพันธุ์อะไร ในต่างประเทศบางประเทศที่มีการตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ตรวจยีนอื่นพบ แต่ตรวจยีน S ไม่พบ ก็ถือว่าน่าจะเป็นโอมิครอน เพราะการกลายพันธุ์ในยีน S ทำให้ตรวจไม่พบ
ในประเทศไทยการตรวจหาไวรัสโควิด-19 เกือบทั้งหมดไม่ได้มีการตรวจยีน S ร่วมด้วย จึงไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้
ศ.นพ.ยงระบุว่า การตรวจหาสายพันธุ์ไวรัสจำเป็นต้องใช้วิธีการจำเพาะในการตรวจ หรือถอดรหัสพันธุกรรม ตัวเลขแต่ละประเทศที่รายงานมา เป็นการตั้งใจตรวจหาสายพันธุ์ หลายคนเมื่อดูอันดับการตรวจพบแล้ว ประเทศไทยอยู่ในอันดับต้นๆ ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะความสามารถในการตรวจของเราอยู่ในอันดับต้นๆเช่นเดียวกัน
“ ดังนั้น ขณะนี้การที่บอกว่าตรวจพบ 3,000 ราย ก็ไม่ใช่ตัวเลขที่แท้จริงที่มีการระบาดด้วยสายพันธุ์โอมิครอน เพราะมีผู้ป่วยอีกมากกว่าหลายเท่าที่ไม่ได้ตรวจ เช่นเดียวกันในเกือบทุกประเทศจะเป็นแบบนั้น”
“การจะบอกได้ว่าขณะนี้การระบาดเป็นสายพันธุ์โอมิครอนมากน้อยแค่ไหนจะต้องใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 มาตรวจ แล้วดูอัตราเปอร์เซ็นต์ในการพบโอมิครอนกับสายพันธุ์เดลตา ขณะนี้ทางศูนย์ฯกำลังทำอยู่ แต่คงทำได้เฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑลเท่านั้น”
ศ.นพ.ยง กล่าวทิ้งท้ายในบทความว่า ขณะนี้ในประเทศไทยเชื่อว่าโอมิครอน ได้เข้ามาแทนที่เดลตาเป็นจำนวนมากแล้วน่าจะเกินร้อยละ 30