ผู้สื่อข่าวรายงานว่า GISTDA ได้เปิดเผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของระบบเวียร์ (VIIRS) วันที่ 13 มกราคม 2565 พบจุดความร้อนทั้งประเทศ จำนวน 404 จุด เพิ่มขึ้นจากวานก่อน 86 จุด โดยพบมากสุดในพื้นที่เกษตร 181 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 70 จุด พื้นที่เขตสปก. จำนวน 63 จุด พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ จำนวน 59 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 24 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 7 จุด โดยจุดความร้อน ก็คือ จุดที่ดาวเทียมตรวจพบว่าเป็นพื้นที่ที่มีค่าความร้อนสูงผิดปกติ
ส่วนจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากสุดอันดับที่หนึ่งยังคงเป็นจังหวัด ลพบุรี 36 จุด เพชรบูรณ์ 28 จุด กาฬสินธุ์ 27 จุด ตามลำดับ โดยเช้าวันนี้คุณภาพอากาศโดยรวมยังอยู่ในระดับดี มีฝุ่นบ้างเล็กน้อยในบางพื้นที่ จากภาพแสดงให้เห็นว่าจุดความร้อนยังคงกระจายตัวอยู่ในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และโดยเฉพาะภาคกลางเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากการเตรียมพื้นที่เพื่อการเกษตร
สำหรับจุดความร้อนของประเทศเพื่อนบ้าน พบมากสุดที่ราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 737 จุด อันดับ 2 เป็นประเทศไทย 404 จุด และอันดับที่ 3 สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จำนวน 204 จุด ตามลำดับ
ข้อมูลจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ pm 2.5 ในพื้นที่บริเวณภาคภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณแนวชายแดนเป็นส่วนใหญ่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ดูแลสุขภาพกันด้วย
ทั้งนี้ ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THOES-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่