นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคมะเร็งเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของหลายประเทศทั่วโลก และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของประชากรไทย ในแต่ละปีมีผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งรายใหม่ประมาณ 140,000 คน และเสียชีวิตปีละประมาณ 84,000 คน
โดยโรคมะเร็งที่พบมากในคนไทยได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง และมะเร็งปากมดลูก ตามลำดับ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขตระหนักถึงความสำคัญ ได้กำหนดนโยบาย “มะเร็งรักษาได้ทุกที่”(Cancer Anywhere) ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งได้รับการรักษาที่รวดเร็ว เพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้มากขึ้น
เนื่องในวันมะเร็งโลก 4 กุมภาพันธ์ ปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เริ่มขับเคลื่อนโครงการนำร่องคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่บ้านด้วยตนเอง ในกลุ่มหญิงไทยอายุ 30-60 ปี ทั่วประเทศ เนื่องจากยังมีผู้หญิงจำนวนมากยังไม่เคยรับการตรวจคัดกรอง ซึ่งการตรวจต้องเดินทางไปสถานพยาบาลทำให้เสียเวลาทำงาน อาย หรือกลัวการสอดอุปกรณ์ทางช่องคลอด
โครงการนี้จะสามารถรับชุดตรวจไปเก็บสิ่งส่งตรวจได้เองที่บ้าน โดยกระจายไปทุกจังหวัดจังหวัดละประมาณ 1,000 ชุด รวม 80,000 ชุด หากได้ผลดีจะผลักดันการตรวจคัดกรองด้วยวิธีนี้เข้าสู่ชุดสิทธิประโยชน์ด้านโรคมะเร็งต่อไป
ด้านนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีขูดเซลจากบริเวณปากมดลูกที่เรียกว่าการทำ PAP smear ต้องใช้ความชำนาญของผู้ตรวจและผู้นำเซลไปดูลักษณะความผิดปกติ แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนวิธีตรวจเป็นหาการติดเชื้อ HPV ในบริเวณช่องคลอดแทน ซึ่งทำได้ง่ายกว่าทั้งการเก็บสิ่งส่งตรวจและแปลผล ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการตรวจได้มากขึ้นและตรวจพบความผิดปกติในระยะแรกมากขึ้น
สำหรับชุดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยตัวเองสามารถเก็บสิ่งส่งตรวจได้ง่าย โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติได้จัดทำคู่มือแนะนำวิธีการโดยละเอียด จากนั้นให้ส่งกลับไปตรวจที่โรงพยาบาล รอรับการแจ้งผลตรวจผ่านทางแอปพลิเคชั่นหรือทางไปรษณีย์ และซึ่งหากพบความผิดปกติก็สามารถเข้าสู่ระบบการตรวจวินิจฉัยและการรักษาได้ตามสิทธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
หลักเกณฑ์ผู้ที่สามารถขอรับชุดตรวจได้ ได้แก่
สำหรับผู้สนใจเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกโดยแพทย์ สามารถติดต่อขอรับการตรวจได้ฟรีที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ โรงพยาบาลมะเร็งภูมิภาคทั้ง 7 แห่งของกรมการแพทย์ และ รพ.ของกระทรวงสาธารณสุขที่เข้าร่วมโครงการในแต่ละจังหวัด