โควิดสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดโอมิครอน BA.2 แนวโน้มระบาดมากขึ้นในไทย

19 ก.พ. 2565 | 03:17 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.พ. 2565 | 17:45 น.

โควิดสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดโอมิครอน BA.2 แนวโน้มระบาดมากขึ้นในไทย หมอยงเผยข้อมูลเดือนกุมภาพันธ์มีแนวโน้มสูงขึ้น ชี้ติดต่อง่ายกว่าสายพันธุ์ BA.1

ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความว่า

 

โควิด-19 (Covid-19) สายพันธุ์โอมิครอน BA.2 มีแนวโน้มที่จะพบมากขึ้นในประเทศไทย

 

จากการศึกษาของศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาฯ ในการติดตามสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่พบในเขตกรุงเทพมหานคร 

 

จะเห็นว่าสายพันธุ์ที่พบทั้งหมด เป็นสายพันธุ์ โอมิครอน  ส่วนใหญ่ที่พบยังเป็นสายพันธุ์ย่อย BA.1 

 

ในเดือนกุมภาพันธ์นี้มีแนวโน้มที่พบ สายพันธุ์ BA.2 เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด 

สายพันธุ์ BA.2 ไม่ได้มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น 

 

แต่จะติดต่อง่ายขึ้นกว่าสายพันธุ์ BA.1 และจะเป็นเหตุ ให้การแพร่กระจายของโรคได้มากขึ้น

 

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมานพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ กล่าวว่า ข้อมูลการสุ่มตรวจสายพันธุ์ เฉพาะวันที่ 5-11 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 1,975 ตัวอย่าง ในผู้เดินทางเข้าประเทศ 638 ตัวอย่าง

 

โอมิครอน Ba.2 แนวโน้มระบาดมากขึ้นในไทย

 

พบเป็น B.1.1 จำนวน 596 ตัวอย่าง BA.1 จำนวน 34 ตัวอย่าง และ BA.2 จำนวน 8 ตัวอย่าง สำหรับการตรวจในประเทศ 1,337 ตัวอย่าง พบเป็น B.1.1 จำนวน 812 ตัวอย่าง BA.1 จำนวน 428 ตัวอย่าง และ BA.2 จำนวน 97 ตัวอย่าง

 

“ฉะนั้นไทยเจอโอมิครอน BA.2 ภาพรวมในประเทศคิดเป็น 18.5% ส่วน BA.1 81.5% อย่างไรก็ดี ต้องเรียนว่า การตรวจมีความจำกัดในบางศูนย์ตรวจ ซึ่งกำลังจะทำให้มีความครอบคลุม เพื่อให้เห็นภาพจริงของประเทศ”

ส่วนการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัวจาก 500 กว่าตัวอย่าง ที่เป็นคนละช่วงเวลา และกว่าผลจะออกมา ดังนั้น ข้อมูลที่ได้จะช้ากว่าการตรวจหาสายพันธุ์เบื้องต้น 2,000 กว่าตัวอย่าง

 

ถ้าเป็นตามนี้คือ การถอดทั้งตัวเจอ BA.2 จะอยู่ที่ 2% กว่าๆ เท่านั้น แต่เมื่อข้อมูลล่าสุดที่ตรวจเบื้องต้นพบถึง 18.5%

 

แสดงให้เห็นว่า แนวโน้ม BA.2 เริ่มเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีการรายงานในสัปดาห์ต่อๆ ไป