“วิหารสมเด็จโต พรหมรังสี” ถนนมิตรภาพ อำเภอสี่คิ้ว จังหวัดนครราชสีมา หรืออีกชื่อเรียกกันว่า "วัดหลวงพ่อโต” หรือเรียกติดปากว่า “วัดสรพงษ์” ที่มี “สรพงษ์ ชาตรี” พระเอกตลอดกาลของวงการบันเทิงไทย เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการจัดสร้างอย่างยิ่งใหญ่
ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ถ้าไปจากกทม. มุ่งหน้าเมืองโคราช ขับรถใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ เริ่มเข้าเขตอำเภอสีคิ้ว เลยทางแยกที่จะเบี่ยงซ้ายไปเส้นชัยภูมิมาไม่ไกล
สักประมาณ 2 กิโลเมตร ฝั่งซ้ายในถนนคู่ขนาน จะสะดุดตากับวิหารหลังใหญ่ ที่มีการก่อสร้างอย่างงดงามตระการตา
นั่นก็คือ อุทยานมหาวิหาร สมเด็จพุฒาจารย์ หรือที่ชาวโคราชเรียกกันว่า สมเด็จโต พรหมรังสี หรือ วัดสรพงษ์ ชาตรี ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายใน มูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อำเภอ สี่คิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
ความเป็นมาของที่นี่ เริ่มต้นจาก “สรพงษ์ ชาตรี” เป็นพุทธมามกะ ที่ได้ไปปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป ณ วัดอรัญวิเวก จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพระอาจารย์ได้แนะนำให้สรพงษ์ ให้ไปอธิษฐานขอพรสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่วัดระฆัง
และทุกอย่างที่กังวลจะสำเร็จสมความปรารถนา เนื่องจากสมเด็จโตมีลูกหลานเป็นเทพบุตรเทพธิดาหลายองค์ เมื่อใครมาสักการบูชาก็จะช่วยให้งานนั้นๆสมความปรารถนาได้
สรพงษ์ ชาตรี จึงได้ไปอธิษฐานขอพรตามที่พระอาจารย์ได้แนะนำ พร้อมทั้งต้องการจัดสร้างรูปเหมือนของสมเด็จโต จึงได้ไปปรึกษาหลวงพ่อพระครูปลัดนุตร์ รัตนวิชโย ซึ่งท่านผู้นี้ปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดปักแม่ลาย อำเภอ กำแพงเพชร จังหวัดนครปฐม ท่านได้แนะนำให้สรพงษ์ ชาตรี สร้างรูปเหมือนองค์ใหญ่ที่สุดในโลก
ดังนั้น จึงได้เริ่มประกอบพิธีเททองหล่อรูปเหมือนสมเด็จโต เมื่อวันที่ 1 เมษายน ปี 2543 ซึ่งมีลักษณะหน้าตักกว้าง 8 เมตร 1 นิ้ว สูง 13 เมตร หนัก 61 ตัน รวมค่าก่อสร้างประมาณ 9 ล้านบาทเศษ
รวมทั้งได้ก่อสร้างเรือนยอดเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปขึ้นถวาย และซื้อที่ดินประมาณ 150 ไร่ เพื่อจัดทำภูมิทัศน์ให้เหมาะสมสวยงาม เช่น สระน้ำ สวนหิน สวนดอกไม้ สนามเด็กเล่น ห้องน้ำ โรงทาน เป็นต้น
ผู้เขียน เป็นอีกคนหนึ่ง ที่เวลาไปวัดสรพงษ์ มักจะแวะโรงทานเพื่อทานราดหน้า และยังมีอาหารเมนูอื่นๆอีกมากมายที่นำมาให้ผู้ที่มาสักการะรับประทานฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งมีทั้งราดหน้าชาววัง ไอศกรีมกะทิ ลอดช่อง
หลัง "สรพงษ์ ชาตรี" ป่วยมะเร็งปอด ชาววัดหลวงพ่อโต ซึ่งเป็นวัดที่สรพงษ์ ชาตรี สร้าง ต่างก็เป็นห่วง ด้านกรรมการมูลนิธิเผย หลังป่วยไม่ค่อยได้มาที่วัด ประกอบกับสถานการณ์โควิด ทำให้บรรยากาศที่วัดสรพงษ์ไม่คึกคักเหมือนทุกปี
ซึ่งโดยปกติหากใครเคยไปไหว้หลวงพ่อโต การพบเจอ พูดคุย ขอถ่ายรูปกับ “สรพงษ์ ชาตรี” พร้อมคุณดวงเดือน จิไธสงค์ ภรรยา ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะทั้งสองคนจะมาแทบทุกวัน แม้ระยะหลวงภารกิจจะเยอะขึ้นและร่างกายไม่แข็งแรงก็ยังแบ่งเวลามาจนได้
สรพงษ์ ชาตรี เคยให้ข้อมูลเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ว่า ที่เรียกว่ามูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ มูลนิธิหลวงพ่อโต เพราะที่นี่ไม่ใช่วัด เป็นมูลนิธิ แต่บุคคลทั่วไปจะเรียกกันแบบเข้าใจง่ายๆว่า วัดหลวงพ่อโต อำเภอสีคิ้ว หรือ วัดสรพงษ์ และก็เรียกต่อๆกันแบบนั้นเรื่อยมา