เริ่มวันนี้ UCEP Plus นายกฯ สั่งพีอาร์ด่วนคนไทยต้องเข้าใจ-เข้าถึงสิทธิ

16 มี.ค. 2565 | 02:32 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มี.ค. 2565 | 09:44 น.

นายกฯ สั่งทุกหน่วยงานเร่งชี้แจงให้ประชาชน เข้าใจ และเข้าถึงสิทธิ UCEP Plus อย่างเป็นธรรม หลังจากเริ่มให้บริการวันนี้เป็นวันแรก ผู้ติดเชื้อโควิด-19

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกในการเปิดบริการการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 หรือ "UCEP Plus" โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้กำชับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์

 

ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชน รวมไปถึงหน่วยบริการสาธารณสุข ทั้งภาครัฐและภาพเอกชน เข้าใจ และเข้าถึงสิทธิ UCEP Plus อย่างเป็นธรรม 

 

สำหรับการการเปิดบริการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แบบ UCEP Plus นั้น ที่ผ่านมาที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต กรณีผู้ป่วยโควิด 19 แบบ UCEP Plus 

 

โดยผู้ติดเชื้ออาการสีเหลือง และสีแดง สามารถเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ทุกแห่งจนหายป่วย ไม่เสียค่าใช้จ่าย และหากอาการรุนแรงขึ้นจำเป็นต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลอื่นในเครือข่ายจะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากผู้ป่วยหรือญาติประสงค์จะไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกเครือข่าย จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง 

 

ส่วนผู้ป่วยอาการสีเขียวจะให้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า สิทธิประกันสังคม หรือสิทธิรักษาพยาบาลของข้าราชการ และแนะนำให้การดูแลแบบ Home Isolation (HI) หรือ Community Isolation (CI) หรือ Hotel Isolation

 

แต่หากอาการเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีแดง สามารถส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่นโดยใช้สิทธิ UCEP Plus ได้เช่นกัน 

ล่าสุด สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)ได้จัดทำเกณฑ์การประเมินคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต กรณีโรคโควิด 19 แบบ UCEP Plus ไว้ตามอาการต่าง ๆ โดยผู้ป่วยที่ตรวจ ATK หรือ RT-PCR มีผลเป็นบวก ร่วมกับมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น 

  • ภาวะหัวใจหยุดเต้น มีสิ่งอุดกั้นทางเดินหายใจ หายใจลำบากเฉียบพลัน มีภาวะช็อก มีภาวะโคม่า
  • มีอาการไข้สูงเกิน 39 องศาเซลเซียส มากกว่า 24 ชั่วโมง หรือหายใจเร็วมากกว่า 25 ครั้งต่อนาทีในผู้ใหญ่ หรือออกซิเจนในเลือดเมื่อแรกรับน้อยกว่า 94% หรือมีระดับออกซิเจนลดต่ำลงกว่าภาวะปกติ 3% เมื่อออกแรง หรือโรคประจำตัวเปลี่ยนแปลงรุนแรง หรือผู้ป่วยมีความเสี่ยงสูงตามดุลยพินิจของแพทย์
  • มีอาการอื่นร่วมด้วย คือ เหนื่อยหอบ หายใจเร็ว มีปัจจัยเสี่ยงอาการรุนแรงหรือโรคร่วม เช่น อายุมากกว่า 60 ปี โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรังอื่น ๆ โรคไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ภาวะอ้วน หญิงตั้งครรภ์ ตับแข็ง ภูมิคุ้มกันต่ำ หรือตามดุลยพินิจของผู้คัดแยก 

 

โดยการใช้สิทธิ สามารถโทรแจ้ง 1669 โรงพยาบาลจะประเมินอาการและรักษาเบื้องต้น และกรอกรายละเอียดอาการผ่านโปรแกรม PA ของ สพฉ. หากเข้าเกณฑ์ UCEP Plus จะสามารถใช้สิทธิได้ทันที 

 

ทั้งนี้ สพฉ.ได้เตรียมศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต หมายเลข 02-872-1669 เพื่อให้คำปรึกษากรณีมีข้อสงสัยหรือมีปัญหาในการใช้สิทธิแล้ว

ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ รวม 23,945 ราย จำแนกเป็น

  • ผู้ป่วยจากในประเทศ 23,897 ราย
  • ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 48 ราย
  • ผู้ป่วยสะสม 1,027,207 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
  • หายป่วยกลับบ้าน 23,339 ราย
  • หายป่วยสะสม 836,258 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)
  • ผู้ป่วยกำลังรักษา 221,972 ราย
  • เสียชีวิต 70 ราย

 

ส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19 สรุปจำนวนผู้ที่ได้รับได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่ 28 ก.พ. 2564 - 15 มี.ค. 2565 (18.15 น.) รวมฉีดสะสมอยู่ที่ 126,511,688 โดส แยกเป็น

  • เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 54,547,213 โดส
  • เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 50,013,350 โดส
  • เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 20,054,528 โดส
  • เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 1,896,597 โดส