โควิดวันนี้รวมatk ยอดผู้ติดเชื้อเกิน 4 หมื่นราย ปอดอักเสบเพิ่มขึ้น 7.77%

19 มี.ค. 2565 | 03:22 น.
อัปเดตล่าสุด :19 มี.ค. 2565 | 10:22 น.

โควิดวันนี้รวมatk ยอดผู้ติดเชื้อเกิน 4 หมื่นราย ปอดอักเสบเพิ่มขึ้น 7.77% หมอธีระเผยบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อเพิ่มถึง 388 คน สูงที่สุดเท่าที่เคยระบาดมา

โควิดวันนี้รวมatk ยังคงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) โดยเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ และติดตาม 

 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า 

 

  • 25,804

 

  • ATK 16,658

 

  • รวม 42,462

 

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ปอดอักเสบเพิ่มขึ้นจาก 1312 คน เป็น 1,414 คน เพิ่มขึ้น 7.77%

 

ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มจาก 435 คน เป็น 512 คน เพิ่มขึ้น 17.7%

 

จำนวนติดเชื้อรวม ATK ของวันนี้ ลดลงกว่าสัปดาห์ก่อน 5.59% และลดลงกว่าสองสัปดาห์ก่อน 24.04%

 

บุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อเพิ่มถึง 388 คน สูงที่สุดเท่าที่เคยระบาดมา (ชาย 85, หญิง 303)

หมอธีระยังโพสต์ด้วยว่า 

 

BA.2 ทำระบาดซ้ำในยุโรปถ้วนหน้า

 

ผ่านพีคของ Omicron ไปไม่นาน ประเทศต่างๆ ในยุโรปก็ระบาดกลับซ้ำอย่างรวดเร็วจาก BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ไวกว่า BA.1 ซึ่งเป็นพันธุ์ดั้งเดิม

 

ล่าสุดประเทศออสเตรียประกาศกลับมาบังคับใส่หน้ากากในพื้นที่ปิด (indoor) อีกครั้ง คาดว่าจะเริ่ม 23 มีนาคมที่จะถึงนี้ เนื่องจากการระบาดรุนแรงมากขึ้น

 

สาเหตุหลักไม่ได้เกิดจากตัวไวรัสแต่เพียงอย่างเดียว แต่ที่สำคัญคือ การยุติมาตรการป้องกัน เปิดให้มีการใช้ชีวิตแบบปกติโดยมิได้ป้องกันตัว 

 

ทั้งๆ ที่จำนวนการติดเชื้อแต่ละวันของแต่ละประเทศยังมีสูงอยู่ ในขณะที่ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนก็มีแนวโน้มลดลงเมื่อเวลาผ่านไป 

 

โควิดวันนี้รวมatk ยอดผู้ติดเชื้อเกิน 4 หมื่นราย

 

สามปัจจัยคือ การไม่ป้องกันตัว ไวรัส และภูมิคุ้มกัน จึงเป็นเหตุผลอธิบายปรากฏการณ์ระบาดซ้ำอย่างไม่ต้องแปลกใจ

 

และเป็นบทเรียนสำหรับไทยเราเป็นอย่างดี ว่าไม่ควรเดินตาม
 

หลายคนมองแบบฉาบฉวยว่า เค้าเสรีใช้ชีวิตแล้ว เราก็ต้องทำตามบ้าง เปรียบดั่ง"เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม"

 

แต่สุภาษิตดังกล่าวนั้นโบราณชนคงมิได้หวังให้นำมาใช้กับภาวะวิกฤติระบาดรุนแรงทั่วโลกเช่นนี้ 

 

และคงเสียใจหากนำไปสู่การนำไปใช้ในทางที่ผิดในทำนอง "เห็นเขาเดินตกเหว มาเถิดมาเร็ว ตกเหวตามกัน"

 

สิ่งที่ไทยควรทำคือ เรียนรู้บทเรียนเค้า และหาทางที่ดีและปลอดภัยกว่าเค้า
บทเรียนของเค้าย้ำเตือนว่าการปะทุซ้ำรวดเร็วนั้น แม้จะฉีดวัคซีนกันมากกว่าไทย แต่พอการ์ดตกไม่ป้องกันดีพอ ก็เละเทะได้ ติดเยอะ ป่วยเยอะขึ้น และตายเพิ่มขึ้นได้

 

ยอดติดเรายังสูงมากติดอันดับต้นๆ ของโลก แถมอัตราการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นก็ยังน้อยมาก โดยชนิดวัคซีนพื้นฐาน (primary series) ก็ต่างจากเค้า 

 

ดังนั้นจึงมีความเสียเปรียบ ถ้าวิ่งโกยตาม เปิดเสรี ปักธงประจำถิ่นด้วยความห้าว โอกาสพลาดย่อมมีสูงกว่าเค้า