20 มีนาคม 2565 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานสถานการณ์ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทําให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้กําลังอ่อนพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทําให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยตั้งแต่วันที่ 13 - 20 มี.ค. 65 มีสถานการณ์ในพื้นที่ 31 จังหวัด ได้แก่
ตาก เชียงใหม่ พิษณุโลก เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร ลำปาง เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน เลย หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู กาฬสินธุ์ ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ อุบลราชธานี ชัยภูมิ นครราชสีมา ศรีสะเกษ ปราจีนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี นครสวรรค์ และอ่างทอง รวม 85 อำเภอ 192 ตำบล 605 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 5,003 หลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย(ศรีสะเกษ) ไม่มีผู้เสียชีวิต ดังนี้
1.ตาก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพบพระ อำเภอสามเงา และอำเภอเมืองตาก รวม 6 ตำบล 11 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 184 หลัง
2.เชียงใหม่ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่แจ่ม อำเภอจอมทอง และอำเภอเชียงดาว รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 37 หลัง
3.พิษณุโลก เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชาติตระการ และอำเภอวังทอง รวม 6 ตำบล 8 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 43 หลัง
4.เชียงราย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่สรวย และอำเภอเวียงป่าเป้า รวม 10 ตำบล 32 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 125 หลัง
5.พะเยา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอปง อำเภอแม่ใจ อำเภอจุน อำเภอภูกามยาว และอำเภอดอกคำใต้ รวม 32 ตำบล 204 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2,636 หลัง
6.น่าน เกิดวาตภัยในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปัว อำเภอท่าวังผา อำเภอเชียงกลาง อำเภอแม่จริม อำเภอเมืองน่าน อำเภอภูเพียง และอำเภอเวียงสา รวม 21 ตำบล 52 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 305 หลัง
7.แพร่ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอวังชิ้น รวม 2 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 93 หลัง
8.อุตรดิตถ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอฟากท่า รวม 2 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 31 หลัง
9.กำแพงเพชร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองกำแพงเพชร อำเภอโกสัมพีนคร อำเภอคลองขลุง อำเภอขาณุวรลักษณบุรี อำเภอไทรงาม อำเภอบึงสามัคคี อำเภอลานกระบือ และอำเภอทรายทองวัฒนา รวม 25 ตำบล 97 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 713 หลัง
10.ลำปาง เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังเหนือ อำเภอเถิน และอำเภอสบปราบ รวม 5 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 13 หลัง
11.เพชรบูรณ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหล่มเก่า และอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ รวม 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 42 หลัง
12.แม่ฮ่องสอน เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2 หลัง
13.เลย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเลย และอำเภอปากชม รวม 3 ตำบล 5 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 28 หลัง
14.หนองคาย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอรัตนวาปี และอำเภอเมืองหนองคาย รวม 5 ตำบล 20 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 40 หลัง
15.อุดรธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอบ้านผือ รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 16 หลัง
16.หนองบัวลำภู เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนากลาง และอำเภอศรีบุญเรือง รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 28 หลัง
17.กาฬสินธุ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอหนองกุงศรี รวม 2 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 63 หลัง
18.ยโสธร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเลิงนกทา รวม 3 ตำบล 5 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 6 หลัง
19.อำนาจเจริญ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชานุมาน และอำเภอเสนางคนิคม รวม 2 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 53 หลัง
20.สุรินทร์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอรัตนบุรี อำเภอบัวเชด และอำเภอกาบเชิง รวม 6 ตำบล 13 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 121 หลัง
21.อุบลราชธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสำโรง อำเภอศรีเมืองใหม่ และอำเภอน้ำยืน รวม 5 ตำบล 6 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 34 หลัง
22.ชัยภูมิ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอหนองบัวแดง อำเภอเทพสถิต อำเภอเนินสง่า และบ้านเขว้า รวม 9 ตำบล 22 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 150 หลัง
23.นครราชสีมา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโนนสูง อำเภอด่านขุนทด อำเภอพิมาย อำเภอโนนไทย และอำเภอประทาย รวม 12 ตำบล 25 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 81 หลัง
24.ศรีสะเกษ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกันทรารมย์ อำเภอภูสิงห์ และอำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ รวม 5 ตำบล 14 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 64 หลัง
25.ปราจีนบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีมโหสถ อำเภอนาดี อำเภอศรีมหาโพธิ และอำเภอกบินทร์บุรี รวม 7 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 15 หลัง ภาคกลาง 6 จังหวัด รวม 12 อำเภอ 13 ตำบล 21 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 80 หลัง
26.อุทัยธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านไร่ อำเภอหนองหย่าง และอำเภอเมืองอุทัยธานี รวม 4 ตำบล 5 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 19 หลัง
27.ชัยนาท เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองมะโมง อำเภอหันคา และอำเภอวัดสิงห์ รวม 3 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 44 หลัง
28.สระบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมวกเหล็ก และอำเภอหนองแซง รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 7 หลัง
29.นครสวรรค์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอไพศาลี รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2 หลัง
30.สิงห์บุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอพรหมบุรี รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง
31.อ่างทอง เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอไชโย รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5 หลัง
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว ท้ายนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784 โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง