เปิดลงทะเบียน“ล้างแอร์ฟรี" 20,000 สิทธิ์ เช็คเงื่อนไขที่นี่

23 มี.ค. 2565 | 08:37 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มี.ค. 2565 | 15:42 น.

กฟผ.เตรียมเปิดให้ลงทะเบียนล้างแอร์ฟรี จำนวน 20,000 สิทธิ์ ตรวจสอบวัน-เวลาและช่องทางลงทะเบียนพร้อมเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่

จากสถานการณ์วิกฤตราคาพลังงานโลกที่มีแนวโน้มสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม ทำให้กฟผ. ได้จัดแคมเปญ “Save Energy for ALL ร่วมใจประหยัดพลังงาน ผ่านวิกฤตไปด้วยกัน”โดยภายใต้แคมเปญดังกล่าว มี 2 กิจกรรมสำคัญที่ประชาชนสามารถเข้าร่วมได้แก่ ล้างแอร์ช่วยชาติ และ ส่งเสริมการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง

 

สำหรับรายละเอียดของแคมเปญทั้ง 2 มีดังต่อไปนี้


แคมเปญล้างแอร์ช่วยชาติ (Clean your air, Clean your life)
กฟผ. ร่วมกับสมาคมผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทยให้บริการล้างแอร์แก่ประชาชนทั่วประเทศฟรีจำนวน 10,000 สิทธิ์ จำกัดครัวเรือนละ 1 สิทธิ์ต่อการล้างแอร์ฟรี 1 เครื่อง โดยต้องเป็นแอร์แบบติดผนังขนาดไม่เกิน 24,000 บีทียู และสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ (คลิกที่นี่)  www.egat.co.th ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้การล้างแอร์ทุก 6 เดือน สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ถึง 10%
 

แคมเปญส่งเสริมการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง

กฟผ. ร่วมกับห้างสรรพสินค้าและผู้ค้าปลีก มอบส่วนลด 500 บาท เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 มูลค่า 1,000 บาท ขึ้นไป จำนวน 10,000 สิทธิ์ เพียงแสดงบัตรประชาชน ณ จุดขายในร้านค้าที่เข้าร่วมกิจกรรม และแสดงหลักฐานการเพิ่มเพื่อนใน LINE@EGAT หรือ Facebook : กฟผ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2565

 

กฟผ.เตรียมเปิดให้ลงทะเบียนล้างแอร์ฟรี จำนวน 20,000 สิทธิ์

นายสุทธิพงษ์ เฉลิมเกียรติ ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน ในฐานะรองโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า การปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้ายังสามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น อาทิ เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดดาว ปิดสวิตซ์และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทันทีเมื่อเลิกใช้งาน เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งานและขนาดของห้อง ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้สูงขึ้น หรือไม่ต่ำกว่า 26 องศาเซลเซียส
 

นอกจากนั้นแล้วควรสวมใส่เสื้อเชิ้ตหรือเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีแทนการสวมเสื้อสูท ลดการเปิด-ปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้นานเกินความจำเป็นและไม่ใส่ของแน่นเกินไป ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและประหยัดไฟฟ้าได้มากขึ้นอีกด้วย