"หมอพรทิพย์" ห่วง"แตงโม นิดา" เหมือนถูกปู้ยี่ปู้ยำ ดึงเรื่องไปมา

28 มี.ค. 2565 | 02:53 น.
อัปเดตล่าสุด :28 มี.ค. 2565 | 12:19 น.

"หมอพรทิพย์" ห่วง "แตงโม" ผู้เสียชีวิต เหมือนถูกปู้ยี่ปู้ยำ ดึงเรื่องไปมา ย้ำเข้าใจ"แม่แตงโม" ไม่ได้รับรู้เองฟังจากคนอื่น ถือว่าอันตราย ยันกมธ.ทำหน้าที่ต่อ ชี้ยิ่งเกิดเรื่องแบบนี้ยิ่งสนใจว่า เกิดอะไรขึ้น

 28 มี.ค.65 ที่รัฐสภา พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ส.ว.ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.)สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา  (ส.ว.)และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวถึงกรณีที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม น.ส.ภัทรธิดา หรือนิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวชื่อดังที่ตกเรือเสียชีวิต

 

พร้อมด้วยนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายศูนย์ทนายคลายทุกข์ จะเดินทางมายื่นให้กมธ.ฯถอนเรื่องการพิจารณาคำร้องการเสียชีวิตของแตงโมว่า คิดว่าเป้าประสงค์หลักคงไม่ใช่กมธ. แต่เป็นตนเองมากกว่า เพราะ นางภนิดา คงไม่ต้องการให้ตนเข้าไปยุ่งเกี่ยวในคดี

 

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมองว่ากมธ.เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการทำคดี ซึ่งตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่เข้าใจบทบาททำงานของกมธ. เนื่องจากเรื่องนี้กมธ.สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว เพราะกระทบสิทธิ์ของประชาชน

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์

 

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวอีกว่า ตนเองไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายในคดี เรายังไม่เคยขอดูวัตถุพยาน เพียงแต่ขอเข้าไปดูเรือลำเกิดเหตุเท่านั้น เนื่องจากพบข้อมูลหลายกระแส และกมธ.สิทธิมนุษยชนเพียงแต่ให้คำแนะนำเรื่องของการเก็บรักษาหลักฐานวัตถุพยาน ไม่ให้โดนเปลี่ยนแปลงโดยสภาพอากาศ แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าก้าวก่าย

 

ส่วนคำแนะนำของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.ในฐานะประธานกมธ.ที่ให้นำทั้ง 5 คนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเป็นอย่างอื่น เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นทำให้เราเห็นภาพใหญ่ของการปฏิรูปว่าจุดใดต้องปฏิรูป ซึ่งส่วนตัวเข้าใจนางภนิดา แต่ก็ห่วงแตงโม ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต เหมือนถูกปู้ยี่ปู้ยำ ดึงเรื่องไปมา แทนที่จะมุ่งให้เกิดความจริงกระจ่าง

 

อย่างไรก็ตามกมธ.จะยังคงเดินหน้าทำเรื่องนี้ต่อไป เพราะที่ทำตั้งแต่ต้น ก็ไม่ได้ทำเพราะ นางภนิดา เป็นคนร้องขอ แต่เนื่องจากตอนแรกนางภนิดาต้องการให้ตนเข้าไปดูเรื่องของการชันสูตรศพ แต่ตนมองว่าควรจะเป็นเรื่องของระบบกมธ. ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล จึงเข้าไปทำหน้าที่ในนามกมธ. และยิ่งเกิดเรื่องแบบนี้กมธ.ยิ่งสนใจว่า เกิดอะไรขึ้น
 

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ส่วนตัวห่วง นางภนิดาที่ไม่ได้รับรู้อะไรด้วยตนเอง ฟังผ่านหูจากคำบอกเล่าของคนอื่น ซึ่งหากเป็นแบบนี้สังคมถือว่าอันตราย เพราะหากฟังคนอื่น ไม่ได้รับรู้ด้วยตัวเอง แต่ตัดสินใจทำอะไรลงไปแบบนี้น่าห่วง กมธ.อยากให้ญาติเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณา

 

แต่ที่ผ่านมาทำเท่าไหร่นางภนิดาก็ไม่ยอมมา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลก แตกต่างจากเรื่องทั่วไป อย่างไรก็ตามส่วนตัวไม่ได้ห่วงว่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรที่ทำให้นางภนิดามาถอนเรื่องออกจากกมธ. เพียงแต่ห่วงใยแตงโมผู้เสียชีวิต เมื่อปรับเปลี่ยนตามกระแสสังคมสุดท้ายที่สุดไม่มีใครปฏิเสธความจริงได้"