วันนี้(4 เม.ย.65) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน เตรียมตำแหน่งงานว่าง จำนวน 159,703 อัตรา รองรับผู้ว่างงาน ผู้จบการศึกษาใหม่ กลุ่มผู้เปราะบาง กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และทุกคนที่ต้องการมีงานทำ
โดยพร้อมให้บริการประชาชนผ่านระบบออนไลน์ บนแพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” ซึ่งให้บริการทั้ง Web Application และ Mobile Application ประชาชนสามารถหางาน เข้าถึงตำแหน่งงานที่สนใจเหมาะสมกับตนเอง และสมัครหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อพัฒนาทักษะและเพิ่มโอกาสการมีงานทำ
ปัจจุบันมีตำแหน่งงาน (Active ในระบบ) จากทั่วประเทศ จำนวน 159,703 อัตรา โดยตำแหน่งงาน 5 อันดับแรกที่มีความต้องการมากที่สุด ได้แก่
1. แรงงานด้านการประกอบ
2. แรงงานบรรจุผลิตภัณฑ์
3.พนักงานขายของหน้าร้านและสาธิตสินค้า
4. ตัวแทนจัดหาบริการทางธุรกิจและนายหน้าการค้าอื่น ๆ
5. ตัวแทนฝ่ายขายด้านเทคนิคและการค้า
“รัฐบาลโดยการนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ไม่เคยนิ่งนอนใจกับปัญหาการว่างงาน ซึ่งเป็นปัญหาเริ่มต้นที่กระทบต่อการดำเนินชีวิต การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของภาคครัวเรือน ตลอดจนเศรษฐกิจในระดับประเทศเป็นลูกโซ่
ท่านห่วงใยผู้ว่างงาน ผู้ถูกเลิกจ้าง คนหางาน และผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมทั้งนักศึกษาจบใหม่ที่ยังไม่สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้เพราะขาดประสบการณ์ทำงาน จึงได้กำชับกระทรวงแรงงานสำรวจและเตรียมตำแหน่งงานไว้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า แพลตฟอร์ม “ไทยมีงานทำ” เป็นเว็บไซต์สำหรับคนหางานที่กำลังมองหางาน และหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพ โดยคนหางานสามารถค้นหาข้อมูลตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
โดย Matching ตำแหน่งงานตามพื้นที่ และ ภูมิลำเนา รวมถึงจับคู่ตำแหน่งงานจากความรู้ ความสามารถ และทักษะที่มีอยู่ และยังมีการให้บริการสำหรับนายจ้าง สถานประกอบการ ที่ต้องการช่องทางรับสมัครงาน โดยการลงทะเบียนนายจ้าง เพื่อประกาศตำแหน่งงาน และคัดลอกรายชื่อผู้หางาน
ปัจจุบันมีการปรับปรุงและรวบรวมข้อมูลการจ้างงานจากภาครัฐที่เชื่อมโยงข้อมูลจากสำนักงาน ก.พ. ซึ่งมีตำแหน่งงานจากหน่วยงานราชการกว่า 300 หน่วยงาน ตำแหน่งงานภาคเอกชน และบริษัทจัดหางานชั้นนำ
โดยปีงบประมาณ 2565 (ตั้งแต่เดือนต.ค.64 –ก.พ.65) มีผู้สมัครงานมาใช้บริการ 108,094 คน บรรจุงานแล้ว 75,336 คน ก่อเกิดรายได้โดยประมาณ 9,725,640,600 บาท
กิจการที่ผู้สมัครงานได้รับการบรรจุงาน 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.การผลิต 2.การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ และจักรยานยนต์ 3. ที่พักแรมและบริการด้านอาหาร 4. การบริหารราชการ การป้องกันประเทศ และการประกันสังคมภาคบังคับ 5 กิจกรรมทางวิชาชีพ วิทยาศาสตร์ และกิจกรรมทางวิชาการ ตามลำดับ
สำหรับผู้ที่ต้องการมีงานทำ และนายจ้าง/สถานประกอบการ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 -10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694