สปสช.แจงค่าบริการ “เจอ แจก จบ” จ่ายตรงร้านยา ไม่ผ่านคนกลาง

09 เม.ย. 2565 | 07:24 น.
อัปเดตล่าสุด :09 เม.ย. 2565 | 14:24 น.

สปสช.แจง “บริการ เจอ แจก จบ ที่ร้านยา” จ่ายชดเชยค่าบริการมีระบบพิสูจน์ตัวตนผู้เข้ารับบริการ บันทึกผลผ่านระบบ A-MED พร้อมใช้วิธีจ่ายตรงร้านยาตามบัญชีที่ลงทะเบียน ไม่มีจ่ายผ่านคนกลาง

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และในฐานะโฆษก สปสช.เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีวิเคราะห์ข่าวในประเด็น “สปสช.ดึง ร้านขายยา 700 แห่ง ดูแลผู้ป่วยโควิด” ทางสื่อออนไลน์ (ฐานเศรษฐกิจออนไลน์) นั้น

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

สปสช.ในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินการในนโยบายนี้และถูกพาดพิงของชี้แจงว่า นโยบายในการดึงร้านยา 700 แห่ง ร่วมดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยการให้บริการแบบผู้ป่วยนอกแยกกักตัวที่บ้าน หรือ “เจอ แจก จบ” เนื่องด้วยปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เพิ่มสูงอย่างมาก และส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่มาก

สปสช. ได้ร่วมมือกับสภาเภสัชกรรม เพื่อให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้เข้าถึงระบบบริการรักษาโดยสะดวก ขณะเดียวกันยังลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาล ที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงการรักษาให้ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการมากทั้งกลุ่มสีเหลืองและสีแดง และผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีร้านยาทยอยขึ้นทะเบียนในระบบกับสปสช.แล้ว 500 แห่ง 

 

สำหรับร้านยาที่เข้าร่วมให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 ตามนโยบายนี้ มีหลักเกณฑ์ระบุชัดเจนต้องเป็นร้านยาที่มีเภสัชกรประจำ โดยได้รับการเชิญชวนและคำแนะนำจากสภาเภสัชกรรมในการเข้าร่วมให้บริการ ซึ่งขณะนี้มีร้านยาที่สนใจและสมัครเข้ามาประมาณ 700 แห่ง ขึ้นทะเบียนในระบบแล้ว 500 แห่ง

 

ทพ.อรรถพรกล่าวว่า ขั้นตอนการเข้ารับริการเจอ แจก จบ ที่ร้านยานั้น เช่นเดียวกับการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลและหน่วยบริการอื่นๆ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยก่อนให้บริการจะมีการพิสูจน์ตัวตนของผู้รับบริการเพื่อยืนยันการเข้ารับบริการโดยใช้บัตรประชาชน และบันทึกข้อมูลการให้บริการผ่านโปรแกรม AMED Telehealth (A-MED) ระบบบริการการแพทย์ทางไกล ซึ่งพัฒนาโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการบันทึกข้อมูลเพื่อส่งเบิกกับ สปสช.

 

ทั้งนี้ในส่วนของการจ่ายชดเชยค่าบริการให้กับร้านยารายละ 700 บาทนั้น สปสช. วางระบบเป็นการจ่ายตรงเข้าบัญชีของร้านยาตามที่ลงทะเบียนไว้ โดยไม่มีการจ่ายผ่านคนกลางแต่อย่างใด ซึ่งตามที่ได้เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังมีจำนวนการเบิกค่าบริการเข้ามาไม่มาก มีเพียงราว 1,200 รายเท่านั้น 

 

อย่างไรก็ตามขอเรียนไปยังร้านยาที่ต้องการเข้าร่วมโครงการว่า ท่านสามารถสมัครเข้าร่วมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย กรณีที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามโดยตรงที่ สปสช. และหากพบว่ามีการทุจริตหรือมีพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสในขั้นตอนใด ขอให้แจ้งโดยตรงที่เลขาธิการ สปสช. จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด    

 

“สปสช.ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้ร่วมกันวิเคราะห์และตั้งประเด็นการแสวงหาผลประโยชน์ในนโยบายนี้เพื่อให้เกิดการร่วมตรวจสอบในสังคม ซึ่ง สปสช.มีความยินดีด้วยเราเป็นหน่วยงานที่ยึดหลักคุณธรรม ส่งเสริมความโปร่งใสและป้องกันการทุจริต และจะนำข้อสังเกตที่ได้รับมาตรวจสอบและเฝ้าระวังต่อไป” ทพ.อรรถพรกล่าว