โควิดวันนี้รวมatk ยอดติดเชื้อพุ่งกว่า 4.3 หมื่นราย ปอดอักเสบเพิ่ม 7.96%

14 เม.ย. 2565 | 01:50 น.
อัปเดตล่าสุด :14 เม.ย. 2565 | 08:50 น.

โควิดวันนี้รวมatk ยอดติดเชื้อพุ่งกว่า 4.3 หมื่นราย ปอดอักเสบเพิ่ม 7.96% หมอธีระเผยใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มจาก 774 คน เป็น 846 คน

โควิดวันนี้รวมatk ตัวเลขยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)ที่ติดต่อได้ง่าย และรวดเร็ว 

 

ร.ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า 

 

  • 24,134

 

  • ATK 19,054

 

  • รวม 43,188

 

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ปอดอักเสบเพิ่มขึ้นจาก 1846 คน เป็น 1,993 คน เพิ่มขึ้น 7.96%

 

ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มจาก 774 คน เป็น 846 คน เพิ่มขึ้น 9.3%

 

จำนวนติดเชื้อรวม ATK ของวันนี้ ลดลงกว่าสัปดาห์ก่อน 14.99% และน้อยกว่าสองสัปดาห์ก่อน 1.03%
 

หมอธีระ ยังโพสต์ด้วยว่า

 

สถานการณ์ระบาดของไทย

 

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย

 

ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก

 

ทั้งนี้จำนวนคนเสียชีวิตของไทยเมื่อวานนั้นคิดเป็น 15.4% ของการเสียชีวิต

 

โควิดวันนี้รวมatk ยอดติดเชื้อพุ่งกว่า 4.3 หมื่นราย

 

ทั้งหมดที่รายงานของทวีปเอเชีย

 

การระบาดที่ยืดเยื้อ

 

ดังที่เห็นจากลักษณะการระบาดที่เคยพีคไปราว 10 มีนาคม 2565 (รวม ATK)  ขาลงของไทยยืดเยื้อและค้างเติ่งมานานนับเดือน โดยเป็นผลจากทั้งเรื่องการแพร่ระบาดของ BA.2 ที่แทนที่ BA.1 ควบคู่ไปกับผลกระทบจากการประชาสัมพันธ์ให้คนในสังคมมองว่า Omicron ไม่รุนแรง กระจอก เอาอยู่ ประกาศจะทำให้เป็นโรคประจำถิ่นในเวลาไม่กี่เดือน

 

ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ความระมัดระวังในการใช้ชีวิตของคนจำนวนมากในสังคมลดลงอย่างชัดเจน และนำไปสู่การติดเชื้อแพร่เชื้อในวงกว้างและต่อเนื่อง ควบคุมไม่ได้

เมื่อถึงวันนี้ ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์หยุดยาว จำนวนการติดเชื้อรายวัน รวม ATK หลายหมื่นคนถือเป็นเชื้อไฟจำนวนมาก ที่พร้อมจะทำให้ลุกลามโหมไฟป่าให้มากกว่าเดิม

 

โดยบทเรียนจากปีที่ผ่านมาสอนเราให้เรียนรู้ว่า สองสัปดาห์ถัดจากสงกรานต์ มีโอกาสจะติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า และผลกระทบไม่ได้หยุดแค่นั้น แต่จะเพิ่มขึ้นทวีคูณอีก 2 เท่าในอีกหนึ่งเดือนถัดไป

 

ต้องชื่นชมสื่อมวลชนที่กรุณาติดตามสถานการณ์ ณ จุดท่องเที่ยวกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นที่ภูเก็ต และกทม. แสดงให้เห็นว่า มีกิจการร้านค้าธุรกิจบันเทิง กินดื่มจำนวนไม่น้อยที่ไม่แคร์กฎระเบียบที่ทางการกำหนด ทำให้เกิดการเฮฮาปาร์ตี้ กินดื่มกันอย่างแออัด ไม่มีการป้องกันตัว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการเล่นน้ำ ใช้ปืนฉีดน้ำ และอื่นๆ กันอย่างสนุกสนานใกล้ชิด 

 

คงต้องโยนตำราความรู้ต่างๆ ทิ้ง หากไม่เกิดการระบาดลุกลามจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะมันครบทุกองค์ประกอบทั้งจำนวนคนที่มาก (crowdedness) แออัดใกล้ชิด (closeness) บางพื้นที่บางร้านระบายอากาศไม่ดี (poorly ventilated) คลุกคลีกินดื่มแชร์ของกินของใช้กัน (sharing) รวมถึงใช้เวลาอยู่ด้วยกันนาน (long duration)

 

เหนืออื่นใด ที่สำคัญที่สุด และเป็นโจทย์หลักที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วนคือ การแสดงถึงการบังคับใช้กฎหมายกฎระเบียบด้านการควบคุมป้องกันโรคที่ไม่มีประสิทธิภาพ

 

วันนี้ยังไม่สายเกินไป หากทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญ และหันมาทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์

 

การระบาดไทยยังเป็นไปอย่างรุนแรง ต่อเนื่อง กระจายทั่ว ไม่ใช่เพราะอะไรเลย นอกจากเป็นเพราะเราทำตัวเราเอง ทั้งในเรื่องการควบคุมป้องกันที่ไม่มี

 

ประสิทธิภาพเพียงพอ การเหยียบคันเร่งทางเศรษฐกิจด้วยความจำเป็น แม้เป็นที่เข้าใจได้ แต่การเร่งความเร็วโดยระบบเบรคไม่ดีนั้น ย่อมเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่จะนำไปสู่การบาดเจ็บสาหัสตามมา