จากกรณีที่เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 65 เกิดเหตุชิงทรัพย์ โจรปล้นร้านทอง “ร้านทองเยาวราช” ห้างเทสโกโลตัส ต.ในเมือง อ.เมือง จังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งคนร้ายได้ใช้เวลาไม่ถึง1นาที กวาดทองรูปพรรณไปได้ 1 กระบะใหญ่ รวมทองกว่า 153 บาท หรือมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท
ล่าสุดผ่านไปกว่า 2 วัน หลังจากทีมสืบสวนแกะรอยจากวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุได้ทั้งหมด
ลักษณะของคนร้ายเป็นชาย รูปร่างผอมสูง สวมเสื้อแขนยาวลายตรงสีดำ สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบ และสวมหมาวกไหมพรมสีดำปิดอำพรางใบหน้า
ใช้พาหนะในการก่อเหตุเป็น รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีส้มขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับหลบหนีไป
ล่าสุดวันที่ 14 เม.ย. ชุดสืบสวนได้ติดตามจนพบรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ และได้สอบปากคำเจ้าของรถจักรยานยนต์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุชายคนร้ายที่เป็นคนรู้จักกันได้มาขอยืมรถจักรยานยนต์ แต่เจ้าของรถไม่ทราบว่าคนร้ายจะนำใช้รถจักรยานยนต์ไปก่อเหตุชิงทอง
ซึ่งหลังสอบปากคำเจ้าของรถจักรยานยนต์ ทำให้ชุดสืบสวนทราบแล้วว่า คนร้ายผู้ก่อเหตุเป็นใคร จึงได้รวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว ซึ่งเป็นผู้ชาย มีภูมิลำเนาอยู่ที่ภาคเหนือ แต่มามีภรรยาอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา
ข้อมูลจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาและชุดสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่าศาลจังหวัดนครราชสีมาได้อนุมัติหมายจับ นายกิตติพงษ์(ไม่เปิดเผยนามสกุล) หรือ นายเบส อายุ 28 ปี ผู้ต้องหา ในข้อหาชิงทรัพย์
ทั้งนี้ชุดสืบสวนมีข้อมูลว่านายกิตติพงษ์ หรือ เบส ผู้ต้องหารายนี้เคยเป็นอดีตทหารและพบประวัติอาชญากรโชกโชน
โดยเมื่อปี 2559 นายกิตติพงษ์เคยถูกตำรวจจับกุมคดียาเสพติดพร้อมพรรคพวก พร้อมของกลางยาไอซ์และยาบ้าในเขตกรุงเทพมหานคร