รับตัวคนไทยจากกัมพูชา เหยื่อถูกบังคับทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 เม.ย. 2565 | 11:45 น.
อัปเดตล่าสุด :15 เม.ย. 2565 | 18:55 น.

“บิ๊กรอย-บิ๊กโจ๊ก”รับตัวคนไทยจากกัมพูชา หลังตำรวจไทย-กัมพูชา ประสานความร่วมมือเข้าช่วยเหลือเหยื่อคนไทยถูกบังคับทำงานผิดกฎหมาย

จากกรณีเมื่อวันที่ 10-11 เม.ย.65 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. นำตำรวจไทยร่วมกับตำรวจกัมพูชา เข้าช่วยเหลือเหยื่อคนไทยที่ถูกบังคับทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์และหลอกลงทุน จำนวน  68 คน จากกรุงพนมเปญ เมืองพระสีหนุ และเมืองบาร์เวต ประเทศกัมพูชา

รับตัวคนไทยจากกัมพูชา เหยื่อถูกบังคับทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์

โดยเหยื่อทั้งหมดถูกบังคับทำงานหลอกลวงคนไทย สร้างความเสียหายหลายร้อยล้านบาทต่อเดือน ตามที่เป็นข่าวในสื่อโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย นั้นต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. , พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศพดส.ตร. พร้อมคณะได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เข้าพูดคุยประสานความร่วมมือกับ พล.ต.อ.เน็ท สะเวิน ผบ.ตร.ประเทศกัมพูชา เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือในการป้องกันการหลอกลวงคนไทยมาทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา รวมทั้งการนำคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือในรายล่าสุดกลับประเทศไทยโดยเร็ว

ภายหลังจากประสานความร่วมมือและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายของประเทศกัมพูชาแล้ว วันนี้ (15 เม.ย.65) ตำรวจประเทศกัมพูชาได้ส่งตัวคนไทยทั้ง 68 คน กลับประเทศผ่านทางด่านชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยจะเร่งนำเหยื่อทั้งหมดเข้าสู่กระบวนตามมาตรการสาธาณสุข และดำเนินการคัดแยกเหยื่อในการดำเนินคดีการค้ามนุษย์และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตั้งแต่ผู้โฆษณาหลอกลวงเหยื่อในสื่อโซเชียล     ผู้นำพาเหยื่อหลบหนีตามช่องทางธรรมชาติ จนถึงนายทุนชาวจีนที่เป็นหัวหน้าแก๊ง

 

โดยเหยื่อทั้งหมดยอมรับว่า พวกตนได้เดินทางโดยรถตู้จากกรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียง จนมาถึงจ.สระแก้ว และใช้การเดินเท้าผ่านป่าตามแนวตะเข็บชายแดน ข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา หลังจากนั้นจะมีรถมารับไปกักตัวที่ตึกแห่งหนึ่ง ก่อนจะถูกส่งตัวให้กับกลุ่มนายทุนชาวจีน ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในกรุงพนมเปญ และเมืองพระสีหนุ ประเทศกัมพูชา และจะบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย หากไม่ทำตามก็จะถูกทำร้าย ถูกกักขัง บางรายถูกขายต่อไปยังนายทุนจีนคนอื่นในราคา 3,000 ดอลลาร์  ซึ่งพวกตนพยายามขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ไทยมาโดยตลอด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย-กัมพูชา เข้าช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย โดยยังมีคนไทยอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ที่ยังถูกบังคับทำงานอยู่ในหลายๆ เมืองอีกมาก

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ศพดส.ตร. ได้ช่วยเหลือคนไทยกลับมาเป็นจำนวนมาก และขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินคดีกับผู้ร่วมขบวนการจำนวนหลายราย โดยในวันนี้ยังได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินคดี และกำหนดแนวทางในการป้องกันไม่ให้คนไทยถูกหลอกลวงไปทำงานผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน

 

ในส่วนของคนไทยที่เดินทางกลับมาได้ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง และได้มีการสั่งการในที่ประชุมให้มีการขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด

 

ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงคนไทยไปทำงานผิดกฎหมายดังกล่าว หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 หรือ ทางเว็บไซต์

 

 หรือ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก หรือ LineOA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุดคือ การสแกน QRCODE  เพื่อกรอกแบบฟอร์มในการแจ้งเหตุและเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวเพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป