ความนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ในไทยเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการสนับสนุนจากภาครัฐฯที่ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้ามีการปรับลดลง ประกอบกับผู้เล่นในตลาดทั้ง จีน ,เยอรมนีญี่ปุ่น ต่างก็นำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้นแล้วปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นต่อเนื่อง ก็มีผลทำให้ประชาชนบางส่วนหันมามองรถยนต์ไฟฟ้า ขณะเดียวกันปัญหาเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะเรื่องสถานีชาร์จไฟ หรือ จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตอนนี้ ก็ถือว่ามีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะภาคเอกชนต่างก็เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ เช่นเดียวกับหน่วยงานรัฐก็เข้ามาขยายจุดชาร์จเพื่อทำการต่อยอดและสานต่อนโยบาย30@30 ที่รัฐบาลวางไว้
ทั้งนี้ข้อมูลจากสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย Electric Vehicle Association of Thailand - EVAT ระบุว่าในปี 2564 (วันที่ 22 กันยายน 2564) มีจำนวนสถานีชาร์จไฟ 693 แห่ง และมีหัวจ่ายประมาณ 2,285 หัวจ่าย วันนี้"ฐานเศรษฐกิจ"จึงได้รวบรวมสถานีชาร์จไฟทั่วประเทศ จากผู้ให้บริการหลายรายมานำเสนอ โดยจะมีแบรนด์ไหน ให้บริการที่ใดบ้างนั้น สามารถตรวจสอบได้ดังนี้
สถานีชาร์จ EA ANYWHERE
EA Anywhere มีสถานีให้บริการอัดประจุไฟฟ้ากว่า 430 สถานี รวมทั้งสิ้นกว่า 1,855 หัวชาร์จ และภายในปี 2565 ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มหัวชาร์จ DC Ultra-Fast Charge จำนวน 1,000 หัวชาร์จ ทั้งนี้ลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า สามารถค้นหาสถานีชาร์จผ่านแอปพลิเคชัน EA ANYWHERE ได้
ปัจจุบัน EA Anywhere มีสถานีบริการแบบ DC Charging (การชาร์จแบบเร็ว) 24 ชม.ดังนี้
หรือสามารถค้นหาสถานีชาร์จผ่านแอป EA ANYWHERE โดยดาวน์โหลดได้ทั้ง 2 แพลทฟอร์ม
สถานีชาร์จ AC (Normal Charge)
สถานีชาร์จ DC (Fast Charge)
สามารถค้นหาและใช้บริการสถานีชาร์จ DC ได้ตามวันและเวลาที่เปิดบริการ ดังนี้
สถานีบริการชาร์จไฟ ChargeNow ทั่วประเทศไทย
จุดให้บริการสาธารณะในกรุงเทพ
จุดให้บริการสาธารณะในต่างจังหวัด
ถือเป็น 2 แบรนด์ใหญ่ที่มีจำนวนสถานีและหัวจ่ายให้บริการเป็นจำนวนมากอีกทั้งยังกระจายอยู่ตามหัวเมือง ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ ส่วนแบรนด์อื่นๆอีกหลากหลายแบรนด์ทั้งเอกชนและรัฐฯ"ฐานเศรษฐกิจ"จะนำเสนอในลำดับต่อไป
ที่มาข้อมูล-ภาพ