“คดีแตงโม” ยังคงมีความเคลื่อนไหวทั้งการตรวจสอบสำนวนคดีหลังจากที่อัยการได้ให้ตำรวจกลับไปทบทวนสำนวนใน 20 ประเด็น จนมีการส่งสำนวนกลับมาที่อัยการแล้ว ก็ยังมีความเคลื่อนไหวของ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ โดยวานนี้นำหลักฐานเพิ่มเติมคดีแตงโม ไปส่งมอบให้กับ ดีเอสไอ เพื่อให้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ
โดยข้อมูลและวัตถุพยานที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์ จำนวน 20 ชุด และพยานบุคคลจำนวน 13 ปาก มามอบให้กับ ดีเอสไอ โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ที่พบเรือสปีดโบตจำนวน 2 ลำ ร่วมก่อเหตุในคดีแตงโม มั่นใจว่า คดีนี้เป็นการฆาตกรรมอำพรางที่ไม่มีการวางแผน แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นเฉพาะหน้า
ส่วนความเคลื่อนไหวของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้ง “พล.ต.อ. มนตรี ยิ้มแย้ม” เป็นประธานสอบ 4 นายตำรวจ ไล่เรียงตั้งแต่ ผบช.ภาค 1 ยัน ผกก.เมืองนนทบุรี ชุดคลี่คลาย "คดีแตงโม"
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้ายื่นหนังสือถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เพราะเชื่อว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทั้ง 4 นายดังกล่าว สร้างความเสียหายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง
ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่กระทำการรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง นำข้อมูลเท็จหรือพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเข้าสู่สำนวน ไม่ทำคดีชันสูตรการตาย ไม่มีการตรวจสารเสพติดบุคคลต้องสงสัยบนเรือ จึงเป็นที่มาของการตั้งกรรมการตรวจสอบดังกล่าวขึ้นเพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
โดยวานนี้ (18 พฤษภาคม) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือคำสั่งตั้งกรรมการสอบวินัย
นอกจากนี้ยังได้มีการเชิญตัว นายอัจฉริยะ ให้มาเข้าพบในวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 เวลา 10.30 ที่ ห้องประชุม 2 ชั้น 2 สำนักงานจเรตำรวจ เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับข้อมูลในประเด็นต่าง ๆ ตามหนังสือร้องเรียนอีกด้วย
ส่วนความเคลื่อนไหวของ นางสาวอิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก อดีตผู้จัดการส่วนตัวของ แตงโม นิดา พร้อมด้วยทนายความ นำหลักฐานเป็นเอกสารการโพสต์และข้อความวิพากษ์วิจารณ์ ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ นายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ หรือ จิน สามีของ หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ ในข้อหาหมิ่นประมาทเพื่อการโฆษณา ส่วนที่อัยการฯ นัดหมายไปฟังคำสั่งฟ้องในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ ยืนยันว่าจะเดินทางไปตามนัดหมาย พร้อมให้ความร่วมมือและไม่หนักใจ