วันที่ 20 พ.ค. 65 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงมติศบค.ชุดใหญ่ว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบปรับมาตรการการกักตัวในส่วนของผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จากเดิมให้กักตัว 5 วัน และสังเกตอาการอีก 5 วัน เปลี่ยนเป็นไม่ต้องกักตัว แต่ให้สังเกตอาการเป็นเวลา 10 วัน และให้ตรวจ ATK เมื่อมีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ทิศทางการติดเชื้อ ป่วยหนัก และเสียชีวิตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ถือการเข้าสู่การประกาศโรคประจำถิ่นในระยะที่สามเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่การประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นยังคงวันที่ 1 ก.ค.ไว้ก่อน เพราะต้องรอดูมาตรการผ่อนคลายต่างๆ ทั้งการเปิดสถานบันเทิง และการเปิดภาคเรียนว่าเป็นอย่างไร ที่จะเป็นตัวแปร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับมติอื่นๆที่น่าสนใจ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการปรับพื้นที่สถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมโรคแบบบูรณาการ โดยมีการปรับลดพื้นที่สีหรือแบ่งโซนในการควบคุมโรคโควิด-19 เหลือเพียงสีเขียว สีฟ้า และ สีเหลือง และผ่อนสถานบริการ สถานบันเทิง หรือสถานประกอบการคล้ายกัน ดังนี้
การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป
การผ่อนคลายมาตรการ
โดยอนุญาตให้ สถานบริการ สถานบันเทิง หรือสถานประกอบการคล้ายกัน เปิดให้บริการเฉพาะในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว (พื้นที่สีฟ้า) และพื้นที่เฝ้าระวัง (พื้นที่สีเขียว) เริ่มวันที่ 1 มิถุนายน 2565
โดยจำกัดเวลาในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และการให้บริการ ไม่เกิน 24.00 น. และห้ามบุคคลที่ยังไม่รับวัคซีน/ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ เข้าใช้บริการ บริการ
รวมถึงแนะนำให้ประชากรกลุ่ม 608 หลีกเลี่ยงการเข้ารับบริการ ทั้งนี้ การเปิดให้บริการต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. แล้วแต่กรณี
คงมาตรการ
บริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร หรือสถานที่ที่มีลักษณะเดียวกัน ทั้งในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว พื้นที่เฝ้าระวัง และพื้นที่เฝ้าระวังสูง โดยจำกัดเวลาในการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ไม่เกิน 24.00 น.
และจำกัดประเภทร้านอาหารที่บริโภค เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ ต้องเป็นร้านอาหารที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus หรือตามมาตรการ COVID Free Setting