20 พ.ค. 65 เภสัชกรหญิงสุนัยนา กิจเกษตรไพศาล ผู้จัดการทั่วไป แซดพี เทอราพิวติกส์ ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติขยายข้อบ่งใช้การใช้วัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา (Covid-19 Vaccine Moderna) เพิ่มเติมสำหรับกลุ่มเด็กอายุ 6-11 ปี โดยมีรูปแบบการฉีดวัคซีนคือ ฉีดจำนวน 2 เข็ม ขนาดเข็มละ 50 ไมโครกรัม โดยฉีดเข็มที่ 2 ห่างกัน 28 วัน
ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นาสำหรับการป้องกันโรคโควิด-19 ในกลุ่มเด็กอายุ 6-11 ปี ได้มีการอนุมัติใช้มาก่อนหน้าแล้วในประเทศออสเตรเลีย แคนาดา และสหภาพยุโรป โดยข้อมูลที่ทางโมเดอร์นาได้นำส่งให้กับทางสาธารณสุขแคนาดาและรัฐบาลออสเตรเลียนั้นแสดงให้เห็นว่าการให้วัคซีนโมเดอร์นาขนาด 50 ไมโครกรัม เป็นวัคซีนชุดหลักจำนวน 2 เข็ม ในกลุ่มเด็กอายุ 6-11 ปี มีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันในการยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ไม่ด้อยไปกว่ากลุ่มอายุ 18-25 ปี และโดยทั่วไปมีความทนต่อยาได้ดีเช่นกัน
ข้อมูลล่าสุดจากศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์โอมิครอนทั้งหมด โดย 3 สายพันธุ์ย่อยที่องค์การอนามัยโลกประกาศให้เฝ้าระวัง ได้แก่ BA.4 , BA.5 และ BA.2.12.1
สำหรับสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 มีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่งโปรตีนหนาม L452R เหมือนกับสายพันธุ์เดลตา แต่ยังไม่มีการยืนยันว่ารุนแรงเท่ากัน ส่วนสายพันธุ์ย่อย BA.1 จะทำให้ภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติไม่สามารถกัน BA.2 ได้ จึงไม่สามารถกัน BA.4 และ BA.5 ได้ด้วยเช่นกัน ฉะนั้น การฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสไว้แต่ต้น ย่อมดีกว่าการปล่อยให้เกิดภูมิคุ้มกันด้วยตนเองตามธรรมชาติ เพราะสามารถป้องกันการติดได้ทุกสายพันธุ์
วัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นามีความสามารถในการใช้รหัสพันธุกรรมบนสาย mRNA เป็นตัวออกคำสั่งให้เซลล์ร่างกายของมนุษย์ผลิตโปรตีนแบบเดียวกับที่อยู่บนส่วนหนามของไวรัสออกมา ซึ่งโปรตีนนี้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารภูมิคุ้มกันเอาไว้ เพื่อต้านทานการติดเชื้อโควิด-19 ในภายหลัง สามารถต้านทานโอไมครอนที่มีลักษณะเป็นไวรัสกลายพันธุ์มากถึง 50 ตำแหน่ง
"การได้รับอนุมัติให้ขยายข้อบ่งใช้วัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา สำหรับกลุ่มเด็กอายุ 6-11 ปีในประเทศไทยในครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ แสดงให้เห็นว่าวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมีความปลอดภัย สามารถใช้ได้ในทั้งผู้ใหญ่ วัยรุ่น มาจนถึงกลุ่มเด็กอายุ 6-11 ปี และมีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทย ที่เล็งเห็นว่าโควิด-19 กำลังจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นในอีกไม่ช้า "