จากกรณีน้องอลิส เน็ตไอดอลเสียชีวิตในวัย 28 ปี หลังจากรับประทานอาหารติดหลอดลมขณะที่เธออยู่คนเดียวทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทันท่วงทีส่งผลให้สมองขาดออกซิเจนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรานานกว่า 2 เดือนนั้น ทำให้เราต้องย้อนกลับมาดูถึงอาการและสาเหตุซึ่งเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราทุกคนเพื่อใส่ใจและระมัดระวังในการดูแลสุขภาพกันให้มากขึ้น
การสำลัก สิ่งแปลกปลอมในทางเดินหายเป็นปัญหาที่มีความสำคัญและอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ส่วนใหญ่มักพบในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ปีซึ่งเป็นวัยที่มีความอยากรู้อยากเห็น สนใจ ชอบทดลองด้วยตนเอง จึงมักเอาสิ่งแปลกปลอมใส่ไปในช่องต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะช่องทางเดินหายใจอัน เช่น รูจมูก และปาก ประกอบกับฟันกรามที่ยังขึ้นไม่ครบสมบูรณ์ทำให้ไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารชิ้นโต ให้ละเอียดเพียงพอ จึงอาจเกิดการสำลักในระหว่างรับประทานอาหาร และวิ่งเล่นไปด้วย
สำหรับผู้ใหญ่สามารถเกิดปัญหาสำลักได้เช่นเดียวกัน เมื่อผู้ป่วยพยายามจะทำกิจกรรมหลาย ๆ อย่างในขณะกินอาหาร เช่น พูด และ หัวเราะ เป็นต้น ทำให้เกิดปัญหาการสำลักตามมาได้
ภาวะฉุกเฉินกรณีทางเดินหายใจอุดกั้น
เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมในทางเดินหายใจผู้ป่วยจะมีอาการสำลักไออย่างรุนแรงและมีอาการหายใจลำบากได้ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาด รูปร่างและตำแหน่งของสิ่งแปลกปลอม สิ่งแปลกปลอมที่มีขนาดใหญ่มักติดค้างและเกิดการอุดตันในระดับของกล่องเสียงหรือหลอดลมส่วนต้น ทำให้เกิดการอุดกั้นของทางเดินหายใจอย่างสมบูรณ์และเฉียบพลัน ผู้ป่วยมักมีประวัติสำลักในขณะรับประทานอาหาร กุมฝ่ามือไว้ที่ลำคอ พูดไม่มีเสียง กระสับกระส่าย และหายใจไม่เข้า ริมฝีปากเขียวคล้ำ ภาวะนี้ถือเป็นภาวะฉุกเฉินเนื่องจากผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ภายในไม่กี่นาที
วิธีการปฐมพยาบาลเมื่อสำลักอาหาร
1. กรณีที่เรารับประทานอาหารอยู่คนเดียว แล้วจู่ ๆ เกิดสำลักอาหารขึ้นมา ควรปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดังนี้
2.กรณีเห็นคนอื่นสำลักอาหาร
เริ่มจากสังเกตอาการก่อน หากเห็นว่า เขาจะหายใจไม่ออก เอามือกุมคอ พยายามจะพูดแต่ไม่มีเสียง ต้องรีบถามเลยว่า สำลักอาหารใช่หรือไม่ หากเขาส่งสัญญาณว่าใช่ ให้ปฏิบัติดังนี้
ที่มา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, กรมอนามัย, สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)