นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์ฝนที่ตกหนักช่วงนี้ จนทำให้พื้นที่หลายจังหวัด เกิดน้ำท่วมขังฉับพลัน
ล่าสุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัย มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 3 จังหวัด คือ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน รวม 3 อำเภอ 7 ตำบล 15 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 26 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว
จากรายงานของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พบว่า สภาพอากาศในช่วงนี้ มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน
ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
อีกทั้ง ในช่วงระหว่างวันที่ 3-7 ก.ค. 2565 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมาและประเทศลาวตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง
โดยนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังฉับพลัน กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าแก้ไขปัญหา ดูแลประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาค ติดตามสถานการณ์น้ำ เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันบริเวณแม่น้ำ ลำน้ำสายหลักและสาขาในพื้นที่
รวมถึงเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการ และอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เลี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ
รวมทั้งให้ตรวจสอบระบบการแจ้งเตือนประชาชนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำหลากได้ทันท่วงที
ขณะที่ในส่วนของกรุงเทพฯ นายกรัฐมนตรีกำชับให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สนับสนุนเครื่องสูบน้ำแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขัง ให้ระดับน้ำกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
สำหรับในพื้นที่ที่มีประชาชนได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ขอให้ผู้นำท้องที่และท้องถิ่นได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อวางแผนให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยภายหลังระดับน้ำเริ่มลดลงด้วย