รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล (หมอนิธิพัฒน์) หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยมีข้อความระบุว่า
สถานการณ์ที่บ้านริมน้ำยังทรงตัวเมื่อย่างเข้าสู่วันที่สามหลังช่วงหยุดยาว แต่ยอดผู้ป่วยอาการรุนแรงดังรูปวันนี้ทะลุไปที่ 851 คนแล้ว
ต้องทำใจหน่อยว่ายอดก้อนนี้มากะปริบกะปรอยแบบฉี่คนต่อมลูกหมากโตตามที่เคยบอกไว้
ส่วนยอดผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลทะลุไปที่ 11,271 คนแล้วเช่นกัน
โดยมีผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจ 394 คน มีผู้ที่เสียชีวิตอยู่ที่ 19 คน วันนี้จะมาชวนบริหารสมองด้วยการเล่นสนุกกับตัวเลขกัน
หากสมมติฐานผมถูกต้อง เราน่าจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละห้าหมื่นคนมาอย่างน้อยสองสัปดาห์แล้ว
จากตัวเลขผู้ป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลสะสมถึงวันนี้หมื่นกว่าคน ถ้าเฉลี่ยใช้เวลาการรักษาคนละ 7 วัน
นั่นหมายถึงมีผู้ป่วยรายใหม่ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลวันละราว 1,600 คน
ดังนั้นสัดส่วนคนติดโอมิครอนแล้วจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลคิดเป็นราว 3.1%
ซึ่งน้อยกว่าที่พบในช่วงเดลตาซึ่งอยู่ที่ราว 10-20% นั่นหมายถึงโอมิครอนทั้งกลุ่มไม่ว่า BA.ใดๆ
คลายความรุนแรงจากสายพันธุ์ต้นกำเนิดในแง่การต้องเข้าโรงพยาบาลลงราว 5 เท่า
ในคนที่ต้องเข้าโรงพยาบาลหมื่นกว่าคน แต่มีอาการรุนแรงแค่ 851 คน คิดเป็น 7.6% ระลอกก่อนๆ อยู่ระหว่าง 20-30%
นั่นหมายถึงโอมิครอนทั้งกลุ่มไม่ว่า BA.ใดๆ คลายความรุนแรงในแง่การคุกคามชีวิตลงราว 3 เท่า
ดังนั้นถ้าเป็นภาพรวมความรุนแรงของโควิดในปัจจุบันคือลดลงราว 15 เท่า
สำหรับผมแล้ว ตัวช่วยที่สำคัญคือวัคซีนโควิด
ขณะนี้จากตัวเลขข้างต้น ในคนที่มีอาการรุนแรงมีโอกาสใช้เครื่องช่วยหายใจคิดเป็น 46.3%
ตัวเลขนี้ค่อนข้างคงที่มาทุกระลอก ถ้าคนที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจเฉลี่ยใช้เวลาการรักษาคนละ 10 วัน
ดังนั้นจึงมีผู้ป่วยรายใหม่ที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจวันละราว 40 คน อัตราการเสียชีวิตในกลุ่มนี้จะอยู่ที่ราว 50% นั่นหมายถึงจะมีคนเสียชีวิตราววันละ 20 คน
ซึ่งตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่ถ้าคิดเป็นอัตราเสียชีวิตจากฐานคนติดเชื้อห้าหมื่นที่ว่ามา จึงอยู่ที่เพียง 0.04% ลดลงจากตอนที่โควิดเริ่มระบาดใหม่ๆ อย่างน้อย 50 เท่า
ดังนั้นตัวเลขระดับลดการเตือนภัยของประเทศว่าโควิดเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว ควรตัดอัตราการเสียชีวิตออกเหมือนของอเมริกาเพราะมันลดลงมากและลดลงนานแล้ว คงเหลืออยู่แค่สองดัชนี
สำหรับผมคือ ผู้ติดเชื้อวันละ 10,000 คน ผู้ป่วยที่ต้องเขาโรงพยาบาลวันละ 300 (จากตัวเลข 3.1% ข้างต้น) คน
ส่วนอัตราการใช้เตียงโควิดในโรงพยาบาลไม่จำเป็นต้องใช้สำหรับการพิจารณาเป็นโรคประจำถิ่น
แต่ใช้สำหรับการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การกระเพื่อมในพื้นที่ย่อย
สำหรับอัตราการฉีดวัคซีนก็ไม่จำเป็นต้องใช้กำหนดเช่นกัน ถ้าจำนวนผู้ป่วยรุนแรงไม่เกินราว 10% ของผู้ที่ต้องเข้าโรงพยาบาลทั้งหมด
แต่การณรงค์ให้ฉีดวัคซีนทุกเข็มยังต้องทำต่อเนื่องตลอดเวลา เพราะช่วยควบคุมความรุนแรงได้ชัดเจน