‘บิ๊กตู่’ สั่ง เตรียมแผนรับมือ พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน 21-25 ก.ค.นี้

21 ก.ค. 2565 | 07:18 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ค. 2565 | 14:32 น.

"บิ๊กตู่" สั่งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เตรียมแผนรับมือพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก -น้ำท่วมฉับพลัน จากฝนตกหนักช่วง21-25 ก.ค.นี้

วันที่ 21 กรกฎาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามประกาศกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ฉบับที่ 21/2565 เรื่อง “เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน” การประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน)

 

พบว่าจะมีปริมาณฝนตกสะสมต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์น้ำในลำน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติบางพื้นที่ที่ฝนตกหนักอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก อาจส่งผลให้เกิดน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน

 

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบ ได้กำชับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมขังในช่วงวันที่ 21-25 กรกฎาคม 2565

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

นายธนกร กล่าวว่า นายรัฐมนตรีย้ำว่าขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันบริเวณสายหลักต่างๆ พร้อมกับเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำสูง กว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุดและอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาตรน้ำมากกว่าร้อยละ 80 และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำล้นกระทบพื้นที่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำพื้นที่ภาคเหนือ

 

ได้แก่จังหวัดเชียงใหม่ น่าน และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดเลย บึงกาฬ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว และตราด

นายธนกร กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสม และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถในการใช้งานของอ่างเก็บน้ำ อาคารบังคับน้ำ

 

รวมทั้งให้ติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซม แนวคันบริเวณริมแม่น้ำ ต่าง ๆ ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญให้กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างสม่ำเสมอ พร้อมเร่งระบายน้ำในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่เดิม เพื่อเตรียมพร้อมรับน้ำหลากและป้องกันน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นอีก ขอให้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที