ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha)โดยมีข้อความว่า
ติดโควิดได้รับยาต้านไวรัสไปแล้ว กลับมาใหม่อีก
การรายงานจากสหรัฐ (preprint) โดยวิเคราะห์ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2022 ถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2022 ซึ่งเป็นช่วงของโอมิครอน
รักษาด้วย paxlovid 11,270 รายหรือรักษาด้วย molnupiravir 2,374 ราย ภายในระยะเวลาห้าวันหลังจากมีการติดเชื้อ
การกลับมาใหม่ หรือ rebound มีสามลักษณะคือ
ลักษณะที่กลับมาใหม่ไม่แตกต่างกันของการใช้ยา paxlovid หรือ molnupiravir
คนที่มีโรคประจำตัวจะมีการกลับมาใหม่มากกว่า
สำหรับ paxlovid
สำหรับ molnupiravir
เมื่อดูผิวเผิน คล้ายกับการใช้ molnuvipavir จะมีการกลับมาใหม่มากกว่า
แต่เมื่อวิเคราะห์ propensity score matching ซึ่งเป็นวิธีจัดการกับ ตัวแปรและปัจจัยต่างๆเพื่อให้มีความน่าเชื่อถือแม่นยำมากขึ้นในการระบุความเสี่ยง
จะพบว่า ความเสี่ยงระหว่างการใช้ยาทั้งสองชนิดนี้ไม่แตกต่างกันแต่ขึ้นกับ ภาวะหรือโรคประจำตัวของผู้ติดเชื้อ
มีโรคหัวใจ ความดันสูง มะเร็งโรคอัมพฤกษ์ โรคปอด โรคไตโรคตับ อ้วน เบาหวาน โรคทางระบบภูมิคุ้มกัน การได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ รวมถึงการให้ยาต้านภูมิคุ้มกัน
และไม่เกี่ยวพันกับการได้รับวัคซีนหรือไม่
สาเหตุกลไกของการกลับมาใหม่ “ไม่ทราบแน่ชัด” แต่อาจเกี่ยวเนื่องกับการรักษาไม่สามารถกำจัดไวรัสไปได้อย่างหมดจด หรือไวรัสดื้อยา?
อย่างไรก็ตาม การให้ยาต้านไวรัสอย่างสมเหตุสมผลตามลักษณะของอาการที่เป็นมากขึ้น โดยในคนไทยที่ใช้ฟ้าทะลายโจรแล้วนั้น ไม่ดีขึ้นภายในระยะเวลาสองวัน
มีความจำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัส เพื่อป้องกันไม่ให้อาการหนักมากขึ้นจนกระทั่งถึงต้องเข้าโรงพยาบาล