กทม.เตือนปชช.เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ หลังฝนตกหนัก

15 ส.ค. 2565 | 15:05 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ส.ค. 2565 | 22:10 น.

กทม.แจ้งประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองหนองจอก-เขตลาดกระบัง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง และเตรียมขนย้ายสิ่งของให้อยู่ที่สูง

วันที่ 15 สิงหาคม 2565 กรุงเทพมหานคร ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ แนวเขื่อนชั่วคราว และประชาชน​ที่อยู่ริมคลอง ในพื้นที่เขตหนองจอกและเขตลาดกระบังเตรียมขนย้ายสิ่งของให้อยู่ที่สูง 

 

ทั้งนี้ กทม. ได้เตรียมความพร้อมด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ -อุปกรณ์ และเฝ้าระวังจุดเสี่ยง เพื่อความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์​น้ำอย่างใกล้ชิดจากกรมอุทกศาสตร์​ กองทัพเรือและสำนักการระบายน้ำ กทม.(คลิกที่นี่)หรือศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม โทร 02248 5115

 

กทม.เตือนปชช.เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ หลังฝนตกหนัก

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำใกล้ชิดต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากสำนักการระบายน้ำได้รายงานข้อมูลสถานการณ์น้ำและเฝ้าติดตามน้ำทางฝั่งตะวันออก ที่คิดว่าจะมีจุดเสี่ยง ซึ่งน้ำทางด้านตะวันออกส่วนใหญ่จะมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์  และทางกทม. ได้ประสานกับกรมชลประทานในการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน 

 

โดยสถานีสูบน้ำของกรมชลประทานที่เกี่ยวข้องกับ กทม. มีอยู่ 2 สถานี คือ สถานีคลองหกวาสายล่างมีกำลังการสูบประมาณ 35 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และสถานีหนองจอก กำลังสูบที่ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที  ซึ่งทุกวันนี้ได้รับความร่วมมือกับกรมชลประทานเป็นอย่างดีในการเดินเครื่องสูบน้ำทั้ง 2 สถานีเพื่อเร่งระบายน้ำออก 

 

อย่างไรก็ตามมีปัจจัยหนึ่งคือ น้ำทางด้านตะวันออกจะเข้ามาเติมในส่วนของคลองแสนแสบ ทำให้คลองแสนแสบมีระดับน้ำนอกประตูระบายน้ำมีนบุรีค่อนข้างสูง จึงได้ออกประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ริมคลองในเขตหนองจอก ลาดกระบัง ให้ยกของขึ้นที่สูง ซึ่งจะมีน้ำเอ่อล้นในพื้นที่บางส่วน โดยตอนนี้เฝ้าระวังด้านตะวันออกเป็นพิเศษ
 


นายชัชชาติ กล่าวเสริมว่า ตอนนี้ต้องดูปริมาณน้ำในเขื่อนทางภาคเหนือที่ปล่อยมาสู่ กทม. ด้วย ทั้งเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งมีปริมาณน้ำสูงกว่าปีที่แล้ว ประมาณ 10%  แต่ยังไม่ถึงวิกฤตเหมือนในปี 54 ที่มีน้ำประมาณ 70-75% แต่ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 45% ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว

 

"ตัวเลขที่สูงคือด้านตะวันออก เมื่อวานนี้มีน้ำประมาณ 46% ของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขณะที่เดือนนี้เมื่อปีที่แล้วมีประมาณ 6% ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้วมาก แต่ไม่ต้องตกใจเพราะยังรับน้ำได้อีก น้ำที่ไหลลงมาประมาณ 161 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กำลังของคลองประมาณ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงอาจจะมีจุดที่เอ่อล้นตลิ่งบ้าง ซึงกทม. ได้ประสานกรมชลประทานอย่างใกล้ชิดในการปล่อยน้ำ"

 

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
 
อนึ่งน้ำในกรุงเทพฯ มี 4 ส่วน คือ น้ำเหนือ น้ำหนุน น้ำท่าที่มาตามทุ่ง และน้ำสวนในพื้นที่  ซึ่งกทม.ได้เดินหน้าเต็มที่ โดยซ่อมแซมจุดฟันหลอนอกคันกั้นน้ำ ที่ยังมีจุดท่วมบ้างนิดหน่อย เช่น พระราม 3 มีจุดที่น้ำซึมจากกระสอบทรายออกมา เป็นจุดที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ตรงจุดนี้ได้ดำเนินการแก้ไขอยู่ ในเรื่องน้ำสถานการณ์ช่วงนี้ยังไม่มีอะไรน่าห่วงอะไร มีการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำที่อยู่ในเขื่อนซึ่งจะเป็นน้ำที่ลงมาสมทบกับน้ำฝนในอนาคต