ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชน ในอ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ และคาดว่ามวลน้ำจะไหลลงสู่แม่น้ำป่าสัก และเคลื่อนตัวเข้า อ.หล่มสัก ภายใน 24 ชม.
โดยแม้ว่าระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักยังต่ำกว่าตลิ่ง 3-4 เมตร แต่เทศบาลเมืองหล่มสักได้ขึ้นธงแดงแจ้งเตือนประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยริมแม่น้ำ ให้เตรียมความพร้อมอพยพสิ่งของให้อยู่ในที่สูง และประชาชนในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์เตรียมรับมือ กับสภาวะน้ำในแม่น้ำป่าสักเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ ทั้งนี้ กรมชลประทานได้คาดการณ์ว่ามวลน้ำจะไหลเข้าสู่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในอีก 1-2 สัปดาห์หน้า
ขณะวันที่ 21 ส.ค. 2565 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ ได้มีประกาศแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยแจ้งว่าปริมาณน้ำได้ไหลเข้าเขื่อนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเป็นการควบคุมระดับน้ำและปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักชลสิทธิ์ จะเพิ่มการระบายน้ำโดยทยอยเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จากอัตรา 280 ลูกบาศก์เมตร/วินาที วันที่ 21 สิงหาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. จนถึงอัตรา 400 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ในวันที่ 22 สิงหาคม 2565 เวลา 12.00 น.
เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดต่อทรัพย์สินของประชาชน จากการที่ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 1.90 – 2.00 เมตร (จากปัจจุบัน เวลา 12.00 น. ของวันที่ 21 สิงหาคม 2565 ) โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นยังอยู่ในลำน้ำ ไม่เกิดสภาวะน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำป่าสัก
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขอแจ้งเตือน 3 จังหวัดคือ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ด้านท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกาศประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้าป่าสัก อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร กระชังปลา รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก เตรียมรับมือระดับน้ำเพิ่ม และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไป
ขณะที่นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.ลพบุรี ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ซึ่งทางสำนักงานชลประทานที่ 10 ได้ดำเนินการพร่องน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อเตรียมรับน้ำหลาก ที่ไหลลงมาจากพื้นที่ตอนบนในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น เพื่อให้ระดับน้ำและปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม จึงได้เพิ่มการระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2565 ในลักษณะขั้นบันไดอยู่ในอัตรา 280 ลบ.ม./วินาทีจนถึงอัตรา 400 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ในวันที่ 22 ส.ค.2565 ซึ่งการระบายน้ำในปริมาณดังกล่าว ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้น ปริมาณน้ำที่อยู่ในลำน้ำยังไม่เกิดสภาวะล้นตลิ่งและยังไม่มีผลกระทบต่อบ้านเรือนประชาชน เนื่องจากจะมีผลกระทบเมื่อมีการระบายน้ำในอัตรา 600 ลูกบาศก์เมตร/วินาที
ทั้งนี้ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมีปริมาณ 324 ลบ.ม./วินาที หรือ 28 ล้าน ลบ.ม./วัน มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ 503 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 52.44 จากความจุของอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ 960 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำได้ 281 ลบ.ม./วินาที หรือ 24 ล้าน ลบ.ม./ วัน