Zipmex ฟื้นเชื่อมั่น-ลูกค้าสำคัญที่สุด

30 ส.ค. 2565 | 10:30 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ส.ค. 2565 | 19:27 น.

Zipmex ฟื้นเชื่อมั่น-ลูกค้าสำคัญที่สุด

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา นับเป็นสถานการณ์อันยากลำบาก สำหรับวงการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างแท้จริง หลังความผันผวนของสถานการณ์โลก ส่งผลกระทบให้ตลาดเกิดความทุลักทุเล ไล่ตั้งแต่สินทรัพย์รายใหญ่อย่างบิตคอยน์ ไปจนถึงสินทรัพย์รายย่อยอื่นๆ 
 

ขณะที่ Zipmex(ซิปเม็กซ์) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ก็หลีกหนีไม่พ้น ตกเข้าไปอยู่ในวังวน “ขาลง” ของสินทรัพย์ดิจิทัลที่เกิดขึ้นทั่วโลกด้วยเช่นกัน 
 

แน่นอนว่า มีการประเมินสถานการณ์ต่างๆ นาๆ ว่าเป็นผลพวงมาจากสงครามยูเครน-รัสเซีย เงินเฟ้อ หรือถึงขั้นบอกว่า เป็นเกมการต่อสู้ระหว่างนายทุนการเงินยุคเก่ากับยุคใหม่หรือไม่ แต่สำหรับซิปเม็กซ์นั้น เรื่องค่อนข้างชัดเจนว่า เกิดจากการตัดสินใจผิดพลาดจากบริษัทฯ แม่ ที่มีต้นตออยู่สิงค์โปร์ เฉกเช่นบริษัทผู้ประกอบธุรกิจทั่วไป และทำให้ได้รับผลกระทบจากการล้มเป็น “โดมิโน” ของสินทรัพย์ดิจิทัลรายอื่น 

การลงทุน หรือกระทั่งการใช้ชีวิต ย่อมมีความเสี่ยง แต่ขึ้นอยู่กับว่า จะแก้ปัญหาปรับตามสถานการณ์เช่นไร บ้างก็เผชิญหน้ากับปัญหา บ้างก็เก็บกระเป๋าหนีหายไปแบบไร้ความรับผิดชอบ ซึ่งก็เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า นับตั้งแต่เกิดปัญหา โดมิโน เอฟเฟค ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา “เอกลาภ ยิ้มวิไล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทซิปเม็กซ์ ประเทศไทย จำกัด ก็ออกมาชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา ประกาศสิ่งที่เกิดขึ้นให้นักลงทุนทราบ ท่ามกลางเสียงลืออื้ออึงในวงในว่า “จะออกสื่อทำไมไม่เตี้ยมกันก่อน” 
 

จนวันนี้ มีผลลัพท์ที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการพยายามเคลียร์ปัญหากับทางต้นขั้วสิงคโปร์ การยื่นขอพักชำระหนี้เพื่อจัดการกับปัญหาให้มีประสิทธิภาพ และการติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐในไทยอยู่เรื่อยมา โดยสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ ต่างได้รับการทยอยโอนให้แก่ลูกค้านักลงทุน ตามรอบจนกว่าจะครบ ขณะที่เหรียญของซิปเม็กซ์ ZMT เอง ลูกค้าก็สามารถเข้าถึงได้แล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค. โดยที่ลูกค้าสามารถโอนเหรียญเข้าไปในกระเป๋าซื้อขาย Trade Wallet ได้ผ่านทางเว็บไซต์ https://trade.zipmex.com/th/exchange ถือว่าเป็นสิ่งที่ลบล้างความกังวลใจว่าจะถูกชิ่งไปได้มากโข 

เอกลาภ ยิ้มวิไล เองก็ได้พยายามออกมากล่าวย้ำว่า มีการสื่อสารกับนักลงทุนทุกระยะอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการแจ้งข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน รวมถึงการนัดพบกับลูกค้าหลากหลายกลุ่ม เพื่ออธิบายแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งในขณะที่หลายแพลตฟอร์มปิดกิจการอย่างถาวร แต่ซิปเม็กซ์ได้เร่งหานักลงทุน เพื่อนำเงินทุนมาสนับสนุนในการแก้ไขปัญหา มีการทำบันทึกความเข้าใจอย่างจริงจัง ทำ “Due Diligence” การตรวจสอบวิเคราะห์สถานะ การประเมินทรัพย์สิน ตลอดจนหนี้สินของบริษัท ว่ามีมูลค่าถูกต้องครบถ้วนตามบัญชีและมีอยู่จริงโดยทันที 
 

แม้ว่าข่าวสารที่เกิดขึ้น จะทำให้มูลค่าของเหรียญ ZMT อยู่ในขาลง แต่ทางบริษัทมี Roadmap การเติบโตที่ชัดเจนดังเดิม และจะเดินหน้าไปตามแผนที่วางไว้ พร้อมมุ่งหน้าพัฒนาต่อในโปรเจ็กต์ต่อไปในอนาคต ท่ามกลางแนวโน้มสถานการณ์ที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น มั่นใจว่าจะแก้ปัญหาให้ลุล่วงอย่างสมบูรณ์ ขณะเดียวกันสิ่งที่ซิปเม็กซ์ได้ดำเนินการไป ยังส่งผลให้มีนักลงทุนร่วมลงทุนเพิ่มเติมในเหรียญของ ZMT อีกด้วย แสดงให้เห็นได้ว่า นักลงทุนจำนวนมากทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ยังคงมีหวังและยังเห็นศักยภาพของซิปเม็กซ์       
 

สุดท้ายนี้ ต้องบอกว่า เดือนที่ผ่านมา ซิปเม็กซ์เองดูมีความคืบหน้าอยู่เรื่อยๆ และพยาพยามสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมาโดยตลอด ต้องมาจับตาดูกันว่า ผู้นำซิปเม็กซ์อย่าง เอกลาภ ยิ้มวิไล จะดำเนินการตามสิ่งที่ได้พูดไว้ว่า “ผู้บริหารและทีมงานทุกคน ขอยึดมั่นและยืนยันในคำสัญญาว่า สำหรับเราแล้ว ลูกค้าและนักลงทุนทุกราย คือสิ่งสำคัญที่สุด โดยเราจะเดินหน้าแก้ไขปัญหานี้ เพื่อให้สำเร็จลุล่วงไปได้โดยเร็วที่สุด” ได้รวดเร็วเพียงใด และ Zipmex จะใช้กลยุทธ์แบบไหนเพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่น และความมั่นใจจากลูกค้า และนักลงทุนอีกครั้ง