19 ก.ย. 65 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. รายงานอิทธิพลจากร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบน ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมใน 35 จังหวัด รวม 95 อำเภอ 212 ตำบล 805 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 142,957 ครัวเรือน และ กทม. มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ น้ำท่วมใน 7 จังหวัด ได้แก่ พะเยา ตาก สุรินทร์ มหาสารคาม ปทุมธานี สมุทรปราการ จันทบุรี รวม 11 อำเภอ 23 ตำบล 119 หมู่บ้าน และกรุงเทพมหานคร รวม 12 เขต 17 แขวง
ปัจจุบันสถานการณ์ภาพรวมทุกจังหวัดระดับน้ำลดลง ขณะที่ผลกระทบจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก ลำน้ำสาขามีปริมาณมาก ทำให้ยังคงมีสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และปทุมธานี รวม 13 อำเภอ 114 ตำบล 616 หมู่บ้าน ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดดูแลผู้ประสบภัย และระดมกำลังเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลจากร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น
ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง โดยตั้งแต่วันที่ 4 - 19 ก.ย. 65 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 35 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร รวม 95 อำเภอ 212 ตำบล 805 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 142,957 ครัวเรือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย (อุดรธานี) ไม่มีผู้เสียชีวิต
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ พะเยา ตาก สุรินทร์ มหาสารคาม ปทุมธานี สมุทรปราการ จันทบุรี รวม 11 อำเภอ 23 ตำบล 119 หมู่บ้าน และกรุงเทพมหานคร รวม 12 เขต 17 แขวง ปัจจุบันสถานการณ์ภาพรวมทุกจังหวัดระดับน้ำลดลง ดังนี้
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมจากผลกระทบจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก ลำน้ำสาขามีปริมาณมาก ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่งหลายพื้นที่ โดยสถานการณ์ล่าสุดในวันที่ 19 ก.ย. 65 ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี และปทุมธานี รวม 13 อำเภอ 114 ตำบล 616 หมู่บ้าน ดังนี้
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่และให้การดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง และจะได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับ แจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER