เปิดภาพความเสียหายที่เมียนมา แผ่นดินไหวแรง 8.2 สะเทือนถึงไทย

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลาประมาณ 13.20 น. ตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูด ที่ประเทศเมียนมา ขนาด 8.2 โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่พิกัด 95.73°E 21.89°N และมีความลึก 10 กิโลเมตร  แรงสั่นสะเทือนรุนแรงส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางทั้งในเมียนมาและประเทศไทย 

 

หลังจากแผ่นดินไหวยังได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายละเอียดดังนี้

ครั้งที่ 1 เวลา 13.32 น. ขนาด 7.1 

ครั้งที่ 2 เวลา 13.45 น. ขนาด 5.5

ครั้งที่ 3 เวลา 14.24 น. ขนาด 4.0

ครั้งที่ 4 เวลา 14.37 น. ขนาด 5.2

ครั้งที่ 5 เวลา 14.42 น. ขนาด 3.9

ครั้งที่ 6 เวลา 14.57 น. ขนาด 4.7

ครั้งที่ 7 เวลา 15.21 น. ขนาด 4.0

ครั้งที่ 8 เวลา 15.45 น. ขนาด 3.7

ครั้งที่ 9 เวลา 15.52 น. ขนาด 3.8

ครั้งที่ 10 เวลา 16.26 น. ขนาด 4.3

ครั้งที่ 11 เวลา 16.30 น. ขนาด 4.5

ครั้งที่ 12 เวลา 16.55 น. ขนาด 4.9

(ข้อมูลจากกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา)

สถานการณ์ล่าสุดในเมียนมา

แผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลให้สะพานอังวะ (Ava Bridge) ซึ่งเป็นสะพานเหล็กที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอาณานิคมอังกฤษ และมีความสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างเมืองสะกายและเมืองมัณฑะเลย์ พังถล่มลงมา ทำให้การสัญจรข้ามแม่น้ำอิรวดีต้องหยุดชะงัก

นอกจากนี้ อาคารหลายแห่งในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของเมียนมา ได้รับความเสียหายรุนแรง โดยมีรายงานว่าโครงสร้างของมัสยิดแห่งหนึ่งพังถล่ม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย

ทางการเมียนมาได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบ และกำลังดำเนินการประเมินความเสียหาย พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

สถานการณ์ล่าสุดในประเทศไทย

แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวยังส่งผลกระทบถึงประเทศไทย โดยประชาชนในหลายพื้นที่ รวมถึงกรุงเทพมหานคร รู้สึกถึงการสั่นไหวของอาคารและพื้นดิน

ในกรุงเทพฯ มีรายงานว่าอาคารสูงหลายแห่งได้รับความเสียหาย และเกิดเหตุอาคารที่กำลังก่อสร้างในย่านจตุจักรพังถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย และมีการช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง  

ทางกรุงเทพมหานครได้ประกาศให้เมืองเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ และกำลังเร่งตรวจสอบอาคารที่ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนครั้งนี้

 

ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบควรติดตามข้อมูลและคำแนะนำจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยและการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม

 

เครดิตภาพ :กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เครดิตภาพ :กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เครดิตภาพ :กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เครดิตภาพ :กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา เครดิตภาพ :กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์ ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา