เทศกาลสงกรานต์เริ่มขึ้นแล้ว สงกรานต์เริ่มตั้งแต่วันที่ 11-15 เมษายน 2568 ซึ่ง ครม.มีมติเป็นวันหยุดยาว เทศกาลสงกรานต์ หรือ วันขึ้นปีใหม่ไทย ตามธรรมเนียมประเพณีช่วงเช้าทำบุญใส่บาตร หลังจากนั้นทำการสรงน้ำพระ และ ก่อเจดีย์ทราย ซึ่งเทศกาลสงกรานต์ประเพณีนิยม คือ สรงน้ำพระ รดน้ำดำขอพร บิดา และ มารดา ผู้สูงอายุ
สรงน้ำพระ คือ การทำความสะอาดพระพุทธรูป โต๊ะหมู่บูชา หิ้งพระ รูปภาพ และ สิ่งของต่าง ๆ รวมไปถึงที่ประดิษฐานขององค์พระพุทธรูป ให้สะอาดบริสุทธิ์ หรือเรียกอีกอย่างว่า “การถวายเครื่องเถราภิเษก” ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลและสืบเนื่องต่อมาจนถึงปัจจุบัน และต้องทำเป็นประจำทุกปี ถือว่าเป็นการชำระพระวรกายของพระพุทธเจ้าให้ปราศจากมลทิน เพื่อให้เกิดมุทิตาจิต เบิกบานใจ สุขใจ และ เกิดความเป็นสิริมงคลกับผู้ที่ปฏิบัติและทุกคนในบ้าน นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงถึงความเคารพและเลื่อมใสศรัทธาต่อพระรัตนตรัยทั้ง 3 ประการอีกด้วย
สรงน้ำพระ มี 2 แบบ คือ
1.ขั้นตอนอัญเชิญพระพุทธรูปมาเช็ดทำความสะอาด ให้กล่าวคำขอขมาก่อน เพื่อขอให้ท่านอภัยในสิ่งที่เราทำอาจไม่ถูกไม่ควร หรือเพื่อไม่ให้เกิดโทษภัยนั่นเอง ซึ่งตามความเชื่อในบางบ้าน จะมีการเตรียมเครื่องขอขมาใช้ในการไหว้ ได้แก่ ขัน 5 ธูป 5 ดอก ดอกไม้ ขาว 5 คู่ เทียน ขาว 5 คู่ เงิน 5 บาท.หรือจะเพิ่มหมากพลู 5 คำ บุหรี่ 5 ตัว เป็นต้น
คำแปล : กายกรรม 3, วจีกรรม 4, มโนกรรม 3, ที่ข้าพเจ้าได้ประมาทพลาดพลั้งในพระรัตนตรัย ด้วยความตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ขอพระรัตนตรัยได้โปรดยกโทษให้ข้าพเจ้าด้วยเถิด
วิธีสรงน้ำพระสงกรานต์ 2568 วันปีใหม่ไทย
2.ขั้นตอนทำความสะอาดพระพุทธรูป เมื่อสวดขอขมากรรมเสร็จแล้ว อัญเชิญพระพุทธรูปมาเช็ดทำความสะอาด ด้วยผ้าผืนใหม่หรือฟองน้ำสะอาดทีละองค์ หากเป็น ‘กรอบรูป’ ให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำบิดหมาดทำความสะอาดแทน หากเป็น ‘พระเครื่อง’ ควรหากล่องเก็บใส่ไว้ให้เป็นระเบียบ
3.เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้ว ให้อัญเชิญพระพุทธรูปไปประดิษฐานชั่วคราวบนโต๊ะ โดยมีพานหรือถาดรอง และ ประดับโต๊ะด้วยดอกไม้หอม หรือพวงมาลัยให้สวยงาม
4.เตรียมเครื่องหอม โดยการโรยดอกไม้หอม พวงมาลัย น้ำหอม น้ำอบ หรือน้ำปรุง ใส่ในขันน้ำสะอาดไว้สำหรับสรงน้ำพระ
5.ทำความสะอาดที่ประดิษฐานองค์พระประจำบ้าน เช่น หิ้งพระ โต๊ะหมู่บูชา และสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับที่ประดิษฐานองค์พระให้สะอาดสะอ้าน
6. ชวนสมาชิกในบ้านตั้งจิตอธิษฐานและร่วมสรงน้ำพระ โดยนำขันน้ำที่ใส่เครื่องหอมเตรียมไว้ สรงที่องค์พระพุทธรูปให้ครบทุกองค์
คำแปล : เดชะ ข้าสรงน้ำ พระชุ่มฉ่ำตลอดกาล ทุกข์โศกโรคภัยพาล อันตรธาน เป็นสุข เทอญ ก่อนจะอธิษฐานขอพรต่างๆ
หลังจากกล่าวคำอธิษฐานเสร็จแล้ว จึงตักน้ำสรงพระพุทธรูปด้วยความเคารพ และอัญเชิญพระพุทธรูปกลับสู่โต๊ะหมู่บูชา
วัดตะพังทอง เมืองเก่าสุโขทัย อธิบายเกี่ยวกับการสรงน้ำพระเอาไว้ว่า บุญ คือ ความสุขใจ เบิกบานใจ ชุ่มชื่นใจ ความสะอาดของจิตใจ อันเกิดจากความเลื่อมใสในสิ่งที่ตนเคารพ แล้วกระทำการบูชา ดังพระบาลีว่า "นัตถิ จิตเต ปะสันนัมหิ อัปปะกา นามะ ทักขิณา เมื่อจิตเลื่อมใสแล้ว จะได้ผลบุญไม่น้อย
"การสรงน้ำพระ" เป็นการกระทำที่เกิดจากจิตที่เลื่อมใสในพระรัตนตรัยต้องการถวายน้ำอบน้ำหอม อันเป็นอามิสบูชา อีกนัยหนึ่งเป็นการแสดงมุทิตาจิตในท่านผู้เป็นที่เคารพ ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ก็จัดอยู่ในฐานะเป็นที่เคารพทางด้านจิตใจ เพราะเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ สืบสานหลักธรรมนำเผยแผ่ สาธุชนสำนึกในคุณงามความดีของท่าน จึงถวายการเคารพบูชาด้วยการสรงน้ำ เป็นผลแห่งกุศลกรรมรูปแบบหนึ่ง