thansettakij
"คุมประพฤติ" วันที่สามเทศกาลสงกรานต์ "เมาขับ" พุ่ง 1,472 คดี

"คุมประพฤติ" วันที่สามเทศกาลสงกรานต์ "เมาขับ" พุ่ง 1,472 คดี

14 เม.ย. 2568 | 02:22 น.
อัปเดตล่าสุด :14 เม.ย. 2568 | 02:23 น.

สงกรานต์ ปี 2568 “เมาขับ” รับปีใหม่ไทย กรมคุมประพฤติ เผย สถิติคดีช่วงสงกรานต์วันที่สาม "เมาแล้วขับ" 1,472 คดี อันดับ 1 เชียงใหม่ รองลงมา สมุทรปราการ ตามมาด้วย กรุงเทพมหานคร "ขับเสพ" 104 คดี "ติดEM" 15 ราย

วันที่ 14 เมษายน 2568  พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เน้นย้ำถึงมาตรการคุมเข้ม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 สำหรับผู้ถูกคุมความประพฤติในคดีจราจรทางบก โดยเฉพาะการติดตามพฤติกรรมผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) ตามคำสั่งศาล ควบคู่กับการประสานความร่วมมือกับสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสนับสนุนการติดตามข้อมูลจากกล้องวงจรปิด (CCTV) ตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่บนท้องถนน รวมถึงการทำงานบริการสังคม โดยการช่วยเหลือดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือพิการจากอุบัติเหตุ รวมทั้งพาทัวร์ห้องดับจิต เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกและตระหนักถึงความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้น

\"คุมประพฤติ\" วันที่สามเทศกาลสงกรานต์ \"เมาขับ\" พุ่ง 1,472 คดี

อธิบดีกรมคุมประพฤติเปิดเผยว่า เข้าสู่วันที่ 3 ของการดำเนินมาตรการควบคุมเข้มข้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ (13 เมษายน 2568) พบสถิติคดีที่ศาลมีคำสั่งคุมความประพฤติ 224 คดี แบ่งเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 219 คดี (ร้อยละ 97.77) และคดีขับเสพ 5 คดี (ร้อยละ 2.23)

ขณะที่ยอดคดีสะสมในช่วง 3 วันแรกของเทศกาลสงกรานต์ อยู่ที่ 1,579 คดี และติดอุปกรณ์ EM ยังคงเดิมที่ 15 ราย แบ่งเป็น

 

  • ขับรถขณะเมาสุรา 1,472 คดี (ร้อยละ 93.22) ติด EM 4 ราย
  • ขับรถประมาท 3 คดี (ร้อยละ 0.19)
  • ขับเสพ 104 คดี (ร้อยละ 6.59) ติด EM 11 ราย

 

จังหวัดที่มีคดีเมาขับสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 136 คดี รองลงมาคือ สมุทรปราการ 123 คดี และ กรุงเทพมหานคร 118 คดี ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่ 3 ของปี 2567 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 242 คดี และ ปี 2568 จำนวน 219 คดี ลดลง 23 คดี

นอกจากนี้ อธิบดีกรมคุมประพฤติยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศเปิดให้บริการรับคดีและให้คำแนะนำแก่ผู้ถูกคุมความประพฤติอย่างต่อเนื่องแม้ในวันหยุด พร้อมสนับสนุนจุดบริการประชาชน ด่านตรวจค้น และด่านชุมชน จำนวน 87 จุด มีผู้ปฏิบัติงานร่วมทั้งสิ้น 1,938 ราย และจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 356 ราย