บางจากทุ่มงบ 5 ปี 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท ลุยขยายสถานีบริการนํ้ามันมาตรฐานอีก 400 แห่ง ใช้เงินลงทุน 8,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้ปรับปรุงโฉมสถานีบริการนํ้ามันเก่าพร้อมอัดนอนออยล์เสริมรายได้ ตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 1.4 พันแห่งภายในปี 2562 ล่าสุดจับมือแฟรนไชส์แบรนด์ยุโรปลุยธุรกิจอาหาร
นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงการดำเนินงานว่า บริษัทได้ตั้งงบลงทุนช่วง 5 ปี (2558-2562) ไว้ที่ 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท สำหรับขยายสถานีบริการน้ำมันมาตรฐานแห่งใหม่เพิ่มอีกประมาณ 400 แห่ง ใช้เงินลงทุน 8,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้ในการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเก่า โดยเฉพาะสถานีบริการน้ำมันสหกรณ์ฯ ให้สวยงามทันสมัยมากขึ้น พร้อมทั้งจะมีธุรกิจนอนออยล์เข้าไปในสถานีบริการน้ำมันสหกรณ์ฯเพิ่มขึ้น
โดยตั้งเป้ามีจำนวนสถานีบริการน้ำมันเพิ่มเป็น 1.3-1.4 พันแห่งภายในปี 2562 จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,000 แห่ง แบ่งเป็นสถานีบริการมาตรฐาน 40% หรือประมาณ 400 แห่ง ส่วนที่เหลืออีก 600 แห่งเป็นสถานีบริการน้ำมันสหกรณ์ฯ แต่ในอนาคตบางจากจะขยายสถานีบริการน้ำมันมาตรฐานเพิ่มขึ้น ซึ่งสถานีบริการน้ำมันแห่งใหม่ที่จะขยายเพิ่มนั้นจะเป็นสถานีบริการน้ำมันมาตรฐานทั้งหมด ดังนั้นภายในปี 2562 บางจากจะมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันมาตรฐานมากกว่า 700 แห่ง ขณะที่สถานีบริการน้ำมันสหกรณ์ฯจะได้รับการปรับโฉม และมีธุรกิจนอนออยล์เข้าไปเสริม อาทิ ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟอินทนิล ทำให้ดึงดูดลูกค้าเพิ่มขึ้น
"เมื่อปี 2558 บางจากขยายปั๊มน้ำมันเพิ่ม 36 แห่ง ในปีนี้ตั้งเป้าขยายปั๊มน้ำมันเพิ่มอีก 60 แห่ง และปีหน้าจะเพิ่มอีก 100 แห่ง โดยปั๊มใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นปั๊มมาตรฐาน จากปัจจุบันบางจากมีปั๊มมาตรฐานแล้ว 400 แห่ง จากจำนวนปั๊มบางจากทั้งสิ้น 1,000 แห่ง โดยยังคงมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 2 หรือประมาณ 15% ของยอดขายน้ำมันทั้งหมด ปัจจุบันยอมรับว่าหากไปในพื้นที่ห่างไกล จะหาปั๊มบางจากยาก ดังนั้นปั๊มใหม่ที่จะเกิดขึ้น จะเน้นพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่ต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น ซึ่งสัดส่วนการลงทุนปั๊มที่ขยายจะเป็นของบางจาก 50% และของดีลเลอร์ 50% นอกจากนี้ในอนาคตอาจมีสัดส่วนปั๊มของดีลเลอร์เพิ่มขึ้น"
นายพงษ์ชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา บางจากได้ตั้งบริษัท บางจาก รีเทล จำกัด มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจอาหารและกาแฟโดยเฉพาะ ซึ่งจะแยกออกจากบริษัทแม่ที่ดำเนินธุรกิจน้ำมันเป็นหลัก เนื่องจากการดำเนินธุรกิจหลายๆด้านภายใต้บริษัทเดียวอาจมีความไม่คล่องตัว ดังนั้น บางจากรีเทลจะเข้ามาช่วยเรื่องธุรกิจนอนออยล์โดยเฉพาะ ขณะเดียวกันบริษัทได้ซื้อแฟรนไชส์จากยุโรป เพื่อดำเนินธุรกิจอาหาร ซึ่งจะเปิดตัวในสถานีบริการน้ำมันมาตรฐานของบางจากในช่วงปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม บางจากยังคงดำเนินธุรกิจร่วมกับทางบิ๊กซีมินิเช่นเดิม ปัจจุบันมี 165 แห่ง และยังทยอยเปิดเพิ่มในสถานีบริการน้ำมันของบางจาก แต่การนำแฟรนไซส์ร้านอาหารในครั้งนี้ จะเน้นการเปิดทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมันบางจาก ซึ่งบางจากเป็นเจ้าของแบรนด์ดังกล่าวในไทย
สำหรับสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนอนออยล์(ด้านการตลาด) ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 10% เพิ่มเป็น 30% ของรายได้ทั้งหมดภายในปี 2562 และตั้งเป้ากำไรก่อนหลักภาษี ค่าเสื่อม(อีบิตด้า) ใน 5 ปีไว้ที่ 5,000 ล้านบาท เทียบกับปี 2558 อยู่ที่ 2,300 ล้านบาท หรือเติบโต 1 เท่าตัว
"ตอนนี้บางจากได้ซื้อแฟรนไชส์จากทางยุโรป เพื่อสู่ธุรกิจอาหารมากขึ้น ส่วนร้านกาแฟอินทนิล ปัจจุบันทั้งอินทนิลการ์เด้น 30 แห่ง และอินทนิลคอฟฟี่ 350 แห่งพบว่ายอดขายของอินทนิลการ์เด้นเติบโตสูงกว่าอินทนิลคอฟฟี่ 40% โดยยอดขายอินทนิลคอฟฟี่เฉลี่ยอยู่ที่สาขาละ 100 แก้วต่อวัน ดังนั้นบางจากตั้งเป้า 5 ปี จะเพิ่มร้านกาแฟอินทนิลรวม 1,000สาขา จากปัจจุบันมี 380 แห่ง"
นายพงษ์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ยอดขายน้ำมันปีนี้คาดว่ายังคงเติบโตขึ้น โดยตัวเลขยอดขายในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ พบว่ายอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันเติบโตประมาณ 11.3% แบ่งเป็นกลุ่มเบนซินโต 13% และกลุ่มดีเซลโต 10% ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา สาเหตุมาจากราคาก๊าซปิโตรเลียม(แอลพีจี)ภาคขนส่ง และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) สะท้อนราคาตลาดโลก ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นผู้บริโภคจึงหันมาใช้น้ำมันแทน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,178 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559