นอนกรนเด็กเสี่ยงภาวะหยุดหายใจขณะหลับ รีบตรวจเพื่อรักษาเร็ว

29 มี.ค. 2568 | 22:09 น.

เด็กนอนกรนผิดปกติ อย่ามองข้าม อาจส่งผลต่อพัฒนาการ สมาธิ โรงพยาบาลหัวเฉียวแนะตรวจ Mini Sleep Test เพื่อการรักษาที่ตรงจุด

การนอนกรนในเด็ก ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องธรรมดาหรือปัญหาเล็กน้อยที่ผู้ปกครองจะมองข้ามได้ เพราะในความเป็นจริงแล้ว อาการนอนกรน โดยเฉพาะในเด็กที่มีเสียงกรนดังผิดปกติ เป็นสัญญาณเตือนสำคัญของ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea – OSA) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวอย่างคาดไม่ถึง

ผู้ปกครองควรสังเกตพฤติกรรมขณะหลับของลูก หากมีอาการต่อไปนี้ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที เช่น

  • มีเสียงกรนดังผิดปกติเป็นประจำ
  • มีอาการหายใจสะดุดหรือหยุดหายใจเป็นช่วงๆ ขณะหลับ
  • สะดุ้งตื่นกลางดึก หายใจแรง หอบเหนื่อย
  • ง่วงซึมในเวลากลางวัน แม้จะนอนเต็มที่
  • มีพฤติกรรมผิดปกติระหว่างนอน เช่น ขากระตุก ฝันร้าย กัดฟัน หรือละเมอ
  • สมาธิสั้น หงุดหงิดง่าย หรือมีพัฒนาการที่ล่าช้ากว่าปกติ

หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อสมอง พัฒนาการ และพฤติกรรมของเด็กในระยะยาว เช่น ภาวะสมาธิสั้น (ADHD), การเรียนรู้บกพร่อง, และแม้แต่ความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือด

โรงพยาบาลหัวเฉียว โดย คลินิกเด็ก ศูนย์แม่และเด็ก ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพการนอนในเด็ก และพร้อมให้บริการตรวจวินิจฉัยภาวะการนอนหลับผิดปกติด้วย แพ็กเกจตรวจการนอนหลับในเด็ก Mini Sleep Test โดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบหายใจในเด็ก เพื่อให้ได้รับการวิเคราะห์อย่างละเอียดและวางแผนการรักษาอย่างตรงจุด

การตรวจ Mini Sleep Test จะช่วยประเมินการทำงานของระบบต่างๆ ขณะเด็กหลับ ไม่ว่าจะเป็นระบบทางเดินหายใจ, อัตราการเต้นของหัวใจ, การเคลื่อนไหวของร่างกาย ไปจนถึงระดับออกซิเจนในเลือดตลอดคืน เพื่อค้นหาความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งการวินิจฉัยในระยะเริ่มต้น จะช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ลูกน้อยเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ

หากคุณสังเกตเห็นว่า ลูกของคุณมีอาการที่เข้าข่าย ควรรีบปรึกษาแพทย์ ไม่ควรรอให้อาการลุกลาม เพราะคุณภาพการนอนคือพื้นฐานของพัฒนาการที่ดีในเด็กทุกคน