รองศาสตราจารย์ ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว Green University ที่มุ่งสู่การเป็น “มหาวิทยาลัยสุขภาพ” (Healthy University) ในปัจจุบัน ได้ให้ความสำคัญและตระหนักถึงการเอาใส่ใจ ต่อคุณภาพชีวิตของนิสิต ในเรื่องการกินการอยู่เพราะเด็กๆ นิสิตคนรุ่นใหม่ทุกวันนี้กินอาหารสำเร็จรูป อาหารแปรรูป กินตามแฟชั่น กินตามเพื่อน กินตามใจปาก
มหาวิทยาลัยจึงจัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการมีโรงอาหารที่สะอาด มีเครื่องล้างจานฆ่าเชื้อ ห้องน้ำสะอาด ภาชนะสะอาด และได้ขอความร่วมมือให้ร้านค้าแต่ละร้านได้มีเมนูอาหารเพื่อสุขภาพอย่างน้อยร้านละ 1 เมนู ใน Healthy Canteen เพราะอาจจะเป็นแรงบันดาลใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารสำหรับนิสิตคนรุ่นใหม่ได้ไม่มากก็น้อย
นายพงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์รวม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า ขณะนี้ มศว เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยเครือข่าย AUN-HPN ที่ได้ร่วมมือกับสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน ในการขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และผลักดันมหาวิทยาลัย สู่การเป็นเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการระดับภูมิภาค ของผู้เชี่ยวชาญทางด้านการมีวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี
“ในสถาบันการศึกษา สสส. ก็เป็นองค์กรที่ทำงานด้านส่งเสริมสุขภาวะให้กับประชาชนในหลายมิติ การที่องค์กรภาครัฐภาคการศึกษาให้ความสำคัญตระหนักรู้เข้ามาช่วยกันสร้างแรงบันดาลใจให้นิสิต น้องๆ เด็กรุ่นใหม่ ตลอดจนกลุ่มวัยคนทำงานและประชาชนทุกเพศทุกวัย ที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการกินอาหารตามหลักโภชนาการเพราะอาหารมีผลกระทบต่อสุขภาพ กินดีสุขภาพก็ดี กินไม่ดีสุขภาพก็แย่ มีโรคภัยตามมา
ดังนั้น เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพคือสิ่งที่จะช่วยให่คนไทยมีสุขภาพดี ลดการไปโรงพยาบาล ให้ความรู้และอยากให้คนไทยลดละคือ ‘ลดหวาน ลดเค็ม ลดมัน’ โดบขณะนี้ สถาบันการศึกษาไม่เพิกเฉย และเชื่อมั่นว่าโรงอาหารในมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็จะไม่ใช่แค่โรงอาหารที่เข้าไปนั่งรับประทานอาหาร แต่จะเป็นที่แห่งการเรียนรู้ของการมีสุขภาพที่ดีได้ทุกวัน
อย่างน้อยการเผยแพร่ให้ความรู้เรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ การติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ย้ำเตือน ‘ลดเค็ม ลดหวาน ลดมัน’ ก็จะเตือนสติให้เรารู้ว่าเราต้องเลือกกินอาหารอย่างไรจึงจะดีต่อสุขภาพได้อีกทางหนึ่ง วันนี้คนไทยตั้งแต่วัยรุ่น หนุ่มรุ่นสาว วัยทำงาน วัยผู้สูงอายุ เจ็บป่วยด้วยโรคความดัน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดตีบ ซึ่งเป็นโรคที่มาจากการบริโภคอาหารที่มีรสเค็ม หวาน มัน มากเกินไป ร่วมกับขาดการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญไขมันและปัจจัยจากอาหารแปรรูป
นายพงษ์ศักดิ์ กล่างว่า เรื่องสุขภาพ-สุขภาวะ เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน เพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องโดยเฉพาะกับเด็กๆ ลูกหลานเจน Y เจน Z ซึ่งเป็นวัยที่อาจไม่เห็นความสำคัญของโภชนาการมากนัก เพราะคือกำลังสมองสำคัญของสังคมประเทศชาติที่เป็นความหวังของคนรุ่นเก่าในวันข้างหน้า โดยเชื่อว่าอาหารที่ดี สุขภาวะที่ดี จะนำมาซึ่งพลังกายที่ดี พลังใจที่เข้มแข็ง สติปัญญาที่ดี
ขณะที่การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะหรือเทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพในการรณรงค์ให้คนไทยทุกหมู่เหล่า ทุกกลุ่มเพศวัย ได้หันมาเอาใจใส่ในการดูแลสุขภาพของตนเองอย่างจริงจัง ด้วยการ “ลดเค็ม ลดหวาน ลดมัน” เป็นหัวใจสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับโรคร้ายต่างๆ ได้อย่างง่ายด้วยการเริ่มต้นด้วยตนเองนั่นเอง
ทั้งนี้ “อาหาร” นับเป็น 1 ใน 4 ปัจจัยหลักสำคัญของชีวิตคนเรา คำกล่าวที่ว่า“กินอย่างไรได้อย่างนั้น” You are what you eat ช่วยย้ำเตือนให้เราตระหนักถึงความสำคัญในการเลือกบริโภคอาหารในแต่ละวัน ขณะที่ปัจจุบันองค์ความรู้เรื่องโภชนาการมีความก้าวหน้าหลากหลายด้าน อาทิ โภชนาการบำบัด อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารแมคโครไบโอติก คลีนฟู้ดส์อาหารชีวจิต อาหารปลอดภัย เป็นต้น
ส่งผลให้คนส่วนใหญ่หันมาเอาใจใส่ต่อการเลือกอาหารเพราะอยากมีอายุยืนยาว มีสุขภาวะที่ดี – กินดีอยู่ดี เพราะเชื่อมั่นว่าการเลือกอาหารที่ดีจะนำมาซึ่งการมีสุขภาพที่ดี อาหารจึงเสมือนปราการด่านแรกที่คอยปกป้องเราให้รอดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บหรือมีสุขภาพที่แข็งแรงได้ทั้งกายและใจ