“หมอ” แนะกินแคลเซียมอย่างไร ให้ปลอดภัย? สุขภาพแข็งแรง

วันนี้ 23 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  หมอเจด นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านเฟซบุ๊ก หมอเจด ว่า  กินแคลเซียมอย่างไร ให้ปลอดภัย?

คำถามคือ “อยากบำรุงกระดูก แต่ลำไส้พัง”

คำถามต่อมา “อยากกิน แต่กลัวไปพอกหินปูนแทน”

คำถามสุดท้าย “ทำไม แก่แล้วไม่มีอะไรดี รวนทั้งระบบ”

สำหรับคำตอบรายละเอียดจากบรรทัดถัดจากนี้

1.อายุมากขึ้น ระบบย่อยแย่ลง ทีนี้ถ้าอยากแก้ที่ต้นทาง ก็ต้องหมั่นเติมโพรไบโอติกส์ เพิ่มจุลินทรีย์ดีให้ลำไส้ จะพิจารณาจากอาหารการกิน หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ก็แล้วแต่สะดวกกัน ลำดับต่อมาคือ...หาแคลเซียม ที่ดูดซึมง่าย นั่นคือ “แคลเซียมซิเตรท” ไม่ต้องกินพร้อมอาหาร ไม่ต้องอาศัยกรดในกระเพาะอาหาร ไม่ทำให้ท้องอืด ท้องผูก ไม่เสี่ยงต่อการเกิดนิ่ว หรือแคลเซียมตกค้างในลำไส้ และได้ปริมาณแคลเซียมที่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่มากกว่า ราคาสูงกว่า แต่ก็สมราคาครับ กับการลดความเสี่ยงในระยะยาว
 

2.การกินแคลเซียม ทำให้หลายคนกังวล เพราะเราอยากให้มันไปซ่อมตรงนี้ มันอาจไปอยู่ที่อื่นแทน อยู่ผิดที่ก็อาจไปทำให้เกิดหินปูน หรือตกค้าง ในส่วนที่เราไม่ต้องการ เช่น เกาะอยู่ตามเส้นเลือด ไต หรือเต้านม หลายคนบอกว่า กินแคลเซียมต้องระวัง เพราะอาจทำให้เกิดนิ่ว หรือหินปูนได้เหมือนกัน อันนี้ก็จริง เพราะฉะนั้น ไรเดอร์ที่จะพาแคลเซียมไปส่งให้ถึงที่ เราเรียกว่า DMK ซึ่งก็คือ “วิตามิน D3 + แมกนีเซียม + วิตามิน K2” ลองศึกษาดูว่า แต่ละตัว อยู่ในอาหารประเภทใดบ้าง อย่างวิตามินดี ก็คือแสงแดดเราดี ๆ  นี่เอง แต่สำหรับคนที่คิดว่ากินได้ไม่ครบ เติมได้ไม่พอ หรือไม่มีเวลาจัดสรร อยากเรียกไรเดอร์ ก็สามารถหาวิตามิน DMK รวมในเม็ดเดียว กินคู่ไปกับแคลเซียมได้เช่นกัน เพื่อลดความเสี่ยงข้างต้น

3.แก่แล้ว ถ้าดูแลให้ดี มันก็ดีครับ ถ้าใส่ใจ เตรียมร่างกายไว้ก่อนแก่ ก็จะแก่ช้า ๆ แก่อย่างมีคุณภาพ แต่ถ้าใช้ร่างกายหนัก ไม่เสริม ไม่บำรุง ไม่ดูแล ระบบก็รวนเป็นธรรมดา เพราะถึงเวลา “เซลล์เสื่อมตามอายุ” อย่าเสียเวลาเสียดาย หรือรำลึกความหลังกันอยู่เลยครับ คิดไปข้างหน้าดีกว่าว่า...รวนแล้วซ่อมยังไงดี? ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ทำไป ชีวิตนี้ไม่มีทางลัดครับ เรื่องความงาม ทางลัดช่วยได้ แต่เรื่องความงอม ซ่อมยากกว่าสร้าง.