นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากกรณีข่าวประเด็นเรื่องค่ายาในโรงพยาบาลเอกชน แพงทะลุถึง 6,900% ยังไม่พบความแน่ชัดหรือสามารถเจาะจงว่าในความจริงเป็นอย่างไร แต่ละโรงพยาบาลต้องประเมินราคาของตัวเอง เพราะหากเป็นความจริงโรงพยาบาลที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์จะมีกำไรมหาศาล ซึ่งเท่าที่เห็นในปัจจุบันมีกำไรเฉลี่ยประมาณ 10% เท่านั้น
หากมองเปรียบเทียบกันระหว่างโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน ปัจจัยเรื่องราคาแพงถือว่าสมเหตุผลและมีสาเหตุที่บ่งชี้ได้อย่างชัดเจน ดังนี้
“จะเห็นได้ว่า การเปรียบเทียบเบื้องต้นของโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชนมีต้นทุนต่างกันอย่างสิ้นเชิง รวมถึงการบริการก็แตกต่างกัน หามีค่าใช้จ่ายโรงพยสบาลรัฐจะคิดเป็นสัดส่วนที่มีต้นทุนและไม่ต้องใช้ต้นทุน แต่โรงพยาบาลเอกชน จะคิดค่าใช้จ่ายรวมทุกสัดส่วน อาจจะอธิบายยากเพราะมีความแตกต่าวกันหลายส่วน แม้คุณภาพโดยภาพรวมก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน”
อย่างไรก็ตาม นพ.ไพบูลย์ กล่าวว่า วิธีคิดค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาบเอกชนจะแตกต่างกันในแต่ละบริษัทและแต่ละกลุ่ม ซึ่งสมาคมโรงพยาบาลเอกชนได้เตรียมเข้าไปพูดคุยกับกรมการค้าภายในถึงกรณีนี้ และจะพิจารณาทบทวนราคาอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ตลอดจนราคายา คาดว่าจะหาข้อสรุปการแก้ปัญหาได้ภายในสัปดาห์นี้