1 เมษายน 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิด "โครงการรับ-ส่ง ปลอดภัย ได้ (ใจ) ผู้ใช้บริการ" สนับสนุนบริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพเพื่อเข้ารับบริการสาธารณสุข นำร่องพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมี นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรมว.สาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ดร.อังสณา เนียมวณิชกุล และคุณนนทวัฒน์ บุญบา ผู้บริหารมูลนิธิเส้นด้ายและผู้ให้บริการรถแท็กซี่ เข้าร่วม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ระบบหลักประกันสุขภาพ มีเจตนารมณ์ที่จะสร้างความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ ในการเข้ารับบริการสาธารณสุขที่จำเป็น ทำให้พี่น้องประชาชน ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างครอบคลุม และทั่วถึง อย่างไรก็ดี ยังมีประชาชนบางกลุ่มประสบปัญหาการเข้าถึงบริการสาธารณสุข เนื่องจากอุปสรรคด้านการเดินทางและค่าพาหนะ
ดังนั้น คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงเห็นชอบ ให้บรรจุสิทธิประโยชน์ "บริการพาหนะรับส่งผู้ทุพพลภาพ" เพื่อให้ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ป่วยที่เดินทางไปโรงพยาบาลยากลำบาก สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุข ในระบบหลักประกันสุขภาพ ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
" ผมจึงมีความยินดีที่ได้มาเปิด โครงการรับ-ส่ง ปลอดภัย ได้ (ใจ) ผู้ใช้บริการ ซึ่งหนึ่งในนวัตกรรมบริการสุขภาพ ตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ของรัฐบาล ภายใต้สิทธิประโยชน์ ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยความร่วมมือกับ มูลนิธิเส้นด้าย ซึ่งเป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงในการทำประโยชน์เพื่อสังคม
ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องซึ่งร่วมกันขับเคลื่อนโครงการที่เป็นประโยชน์ในครั้งนี้ และขอให้ช่วยกัน ยกระดับระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนต่อไป" รมว.สาธารณสุข กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้มูลนิธิเส้นด้าย ร่วมกับ สปสช. และกทม. ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในโครงการรถรับส่งผู้ป่วย โดยสปสช. ได้อนุมัติโครงการตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และเริ่มดำเนินการ 1 ม.ค.68 โดยมูลนิธิเส้นด้าย ได้ดำเนินการและมีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 1,200 เที่ยว ซึ่งมีราคา 350 บาทต่อเที่ยว โดยถือว่า ยังใช้งบประมาณไม่มาก เพราะ สปสช. ตั้งงบประมาณไว้ไม่น้อยกว่า 45,000 เที่ยว
ดังนั้น วันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่อยากสื่อสารไปยังพี่น้องประชาชน ให้มาใช้บริการรถรับส่งฟรีได้เวลามีนัดกับหมอ ซึ่งสามารถแจ้งไปยังมูลนิธิเส้นด้ายได้ตลอด เพื่อให้ประชาชน สามารถเข้ารับบริการสาธารณสุขของรัฐอย่างเต็มที่ โดยตนขอขอบคุณมูลนิธิเส้นด้าย ในการรับเป็นภาระในการช่วยเหลือประชาชน ร่วมกับ สปสช. และกทม.
เมื่อถามว่า ถ้าประชาชนต้องการใช้บริการ มีสายด่วนหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สามารถโทรประสานได้ที่เบอร์ 1330 ซึ่งสามารถนัดคิวล่วงหน้าได้ ส่วนรถที่คอยบริการประชาชน จะไม่มีปัญหา เนื่องจากมูลนิธิเส้นด้าย จะเป็นผู้คอยบริหารทั้งหมด
เมื่อถามว่า มีโอกาสเพิ่มเที่ยวบริการหรือไม่ นพ.จเด็จ กล่าวว่า ต้องดูการบริการที่เกิดขึ้นก่อนว่า มีความจำเป็นหรือไม่ เพราะเป้าหมายของเรา 14,000 คน ที่จำเป็นต้องใช้ แต่ขอดูผลงานก่อนว่าต้องปรับอะไรหรือไม่ พร้อมขอยืนยันว่า จะมีการสานต่อในปีงบประมาณหน้าด้วย เนื่องจากเป็นมติคณะกรรมการแล้ว ซึ่งก็ต้องมีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงหากโครงการประสบความสำเร็จ ก็จะมีการขยายโครงการไปทั่วประเทศด้วย
เมื่อถามถึงความคืบหน้า ร่าง พ.ร.บ.อสม.ที่ยังไม่เข้าที่ประชุมครม. นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งอาจจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า เพราะรอความเห็นหน่วยงานแต่ละกระทรวง โดยขณะนี้ความเห็นมาครบหมดแล้ว ตนเข้าใจว่า ไม่น่ามีปัญหา