น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
ชื่อฝีดาษลิงกำลังจะหายไปจากโลกนี้แล้ว !! โดยองค์การอนามัยโลกจะเปลี่ยนชื่อใหม่ เปิดโอกาสให้ทุกคนเสนอชื่อโรคใหม่ได้ และได้เปลี่ยนชื่อสายพันธุ์ของไวรัสเรียบร้อยแล้ว
องค์การอนามัยโลก(WHO) มีแนวคิดที่จะยกเลิกชื่อเดิมของโรคฝีดาษลิงหรือฝีดาษวานร (Monkeypox) รวมทั้งตั้งใจจะเปลี่ยนชื่อของไวรัส และสายพันธุ์ของไวรัสด้วย
เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนหรือทัศนคติทางลบ ที่อาจทำให้เกิดการ ดูหมิ่นดูแคลน หรือเลือกปฏิบัติ (Discrimination)ทั้งต่อทวีป ภูมิภาค ประเทศ เชื้อชาติ สังคม และวัฒนธรรม
โดยเหตุที่โรคฝีดาษลิงพบในปี 2501 ซึ่งตอนนั้นระบบการตั้งชื่อยังไม่มีมาตรฐาน มักจะตั้งชื่อของไวรัสหรือเชื้อโรค ตามชนิดสัตว์ที่พบเชื้อ หรือเขตภูมิภาคที่มีไวรัสระบาด ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ทำเช่นนั้นแล้ว
การประชุมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2565 ตกลงกันในเบื้องต้นที่จะเปลี่ยนแปลงดังนี้
โดยสายพันธุ์ที่หนึ่งหรือแอฟริกากลางหรือสายพันธุ์คองโกให้เปลี่ยนเป็น Clade I และสายพันธุ์ที่สองคือสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตกให้เปลี่ยนเป็น Clade II และใน Clade II เองยังแบ่งเป็น 2 Subclade ด้วย
ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบเช่นเดียวที่เคยเกิดขึ้นในกรณีโควิด ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับประเทศจีน
โดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามจะใช้คำว่า Chinese virus แทนที่จะใช้คำว่า Corona virus
ถ้าเรายังจำกันได้ ในช่วงแรกใช้ชื่อไวรัสสายพันธุ์อังกฤษ เราได้เปลี่ยนชื่อเป็นอัลฟา (Alpha)
สายพันธุ์แอฟริกาใต้
เปลี่ยนเป็นเบต้า (Beta)
สายพันธุ์บราซิล
เปลี่ยนเป็นแกมมา (Gamma)
สายพันธุ์อินเดีย
เปลี่ยนเป็นเดลตา (Delta)
เมื่อคุ้นชินกับการใช้ตัวอักษรกรีก พอเป็นสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ในปัจจุบัน เกือบทุกคนในโลกก็ลืมไปแล้วว่าคือแอฟริกาใต้
การตั้งชื่อใหม่ ก็คงจะทำให้เป็นระบบที่ดีขึ้น เมื่อองค์การอนามัยโลกตั้งชื่อโรคใหม่แล้ว ก็น่าสนใจว่าไทยจะเปลี่ยนชื่อไปจากฝีดาษลิงหรือฝีดาษวานรหรือไม่อย่างไร เมื่อชื่อใหม่ไม่มีคำว่า Monkey