ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ลองโควิด ผ่านทางเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat เกี่ยวกับภาวะลองโควิดกับกรุ๊ปเลือด ระบุว่า Diaz-Salazar S และคณะจากประเทศสเปน ได้เผยแพร่ผลการศึกษาในวารสารการแพทย์โรคติดเชื้อ Infectious Diseases เมื่อวานนี้ 27 สิงหาคม 2565 เป็นการศึกษาแบบ case-control study ในกลุ่มผู้ที่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 121 คน โดยมี 36 คนที่มีปัญหา Long COVID และอีก 85 คนที่ไม่มีปัญหา Long COVID
พบว่า ผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป O จะมีความสัมพันธ์กับการเกิดปัญหา Long COVID มากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ โดยพบว่าทำให้เสี่ยงมากกว่าราว 6 เท่า (ช่วงความเชื่อมั่น 95% ตั้งแต่ 1.6-23 เท่า)
นอกจากนี้ยังมีจำนวนอาการผิดปกติต่างๆ มากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่นอีกด้วย ทั้งนี้พบว่าผู้ที่มีเลือดกรุ๊ป O จะมีค่าสารเคมีในเลือดที่บ่งถึงการเกิดกระบวนการอักเสบมากกว่ากรุ๊ปเลือดอื่น
แม้การศึกษานี้มีจำนวนกลุ่มประชากรที่ศึกษาไม่มากนัก แต่ก็ให้ผลการศึกษาที่น่าสนใจ และน่าติดตามว่าจะมีการศึกษาขนาดใหญ่ในอนาคตที่จะพิสูจน์ให้เห็นผลที่สอดคล้องกันหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ปัญหา Long COVID เป็นเรื่องจริงและทำให้ประเทศทั่วโลกต้องเตรียมรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ทั้งต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมการป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด
องค์การอนามัยโลกกำลังจะจัดประชุมเพื่อพัฒนาแนวทางรับมือโรคระบาดในอนาคต ในวันจันทร์และอังคารที่จะถึงนี้ 29-30 สิงหาคม 2565 เนื้อหาการประชุมจะมีการทบทวนประสบการณ์ทั่วโลกที่ได้เรียนรู้จากการรับมือโรคระบาดหลายชนิดที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ทบทวนข้อมูลความรู้วิชาการ วิธีการจัดการโดยอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ คาดการณ์อนาคตว่าการระบาดทั่วโลกจะเป็นไปในลักษณะใด รวมถึงการวางแผนรับมือการระบาด ทั้งที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น และที่จะเกิดขึ้นโดยที่ไม่คาดคิด นอกจากนี้ยังจะมีการหารือถึงแผนการศึกษาวิจัยที่จำเป็น และระบบการสนับสนุนให้เกิดการศึกษาวิจัยให้ตอบสนองต่อปัญหาได้อย่างทันท่วงที