15 มิถุนายน 2567 วันไข้เลือดออกอาเซียน

15 มิ.ย. 2567 | 02:00 น.

15 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันไข้เลือดออกอาเซียน ร่วมรณรงค์ให้ประชาชนตระหนัก ป้องกันและร่วมแก้ปัญหา และ 5 ความจริงของ "โรคไข้เลือดออก" ที่คุณอาจไม่เคยรู้

วันที่ 15 มิถุนายน ของทุกปีถูกกำหนดให้วันเป็น "วันไข้เลือดออกอาเซียน" (ASEAN Dengue Day) เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนในประเทศตระหนักในการป้องกันโรคและร่วมกันแก้ปัญหา ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนี้

ความจริงเกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก 

1.ระบาดทุกที่ไม่ใช่แค่ในเมือง

เนื่องจากสาเหตุของไข้เลือดออก คือ ยุงลาย ดังนั้น การจำกัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายภายในบริเวณบ้าน เช่น แหล่งน้ำขัง หรือ บริเวณที่รก เป็นต้น

2.ไม่มียารักษาแบบเฉพาะเจาะจง

ปัจจุบันยังไม่มียาฆ่าเชื้อหรือยาต้านเชื้อ การรักษาเป็นการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ 

3.เป็นซ้ำได้และเสี่ยงที่จะรุนแรงขึ้น

ไข้เลือดออกมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ (DENV 1-4) เมื่อเป็นสายพันธุ์ใดแล้วก็จะมีภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์นั้น ๆ ตลอดชีวิต แต่สามารถติดสายพันธุ์อื่น ๆ ได้อีก และเพิ่มความเสี่ยงในการทำให้โรคมีความรุนแรง 

4.เป็นได้ทุกช่วงอายุ แข็งแรง หรือมีโรคประจำตัวก็เป็นได้ 

5.โรคไข้เลือดออกมี 3 ระยะ 

ระยะไข้ :

ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเกือบตลอดเวลา เด็กบางคนอาจชักเนื่องจากไข้สูง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มักมีหน้าแดง และอาจมีผื่นหรือจุดเลือดออกตามลำตัว แขน ขา ระยะนี้จะเป็นอยู่ราว 2-7 วัน 

ระยะช็อค :

ระยะนี้ไข้จะเริ่มลดลง ผู้ป่วยจะซึม เหงื่อออก มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเบาแต่เร็ว ปวดท้อง อาจมีเลือดออกง่าย เช่น มีเลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเดลือด อุจจาระมีสีดำ ในรายที่รุนแรงจะมีความดันโลหิตต่ำ ช็อค และอาจถึงเสียชีวิตได้ ระยะนี้กินเวลาประมาณ 1-2 วัน  

ระยะฟื้นตัว :

อาการต่าง ๆ จะเริ่มดีขึ้น ผู้ป่วยรู้สึกอยากรับประทานอาหารได้ตามปกติ บางรายอาจมีผื่นแดงและมีจุดเลือดออกเล็ก ๆ ตามลำตัว 

สถิติอัตราผู้ป่วยตั้งแต่ ปี 2562 – 2566 

ปี 2562  พบผู้ป่วย จำนวน 33,263 ราย  เสียชีวิต 55 ราย 

ปี 2563  พบผู้ป่วย  จำนวน 19,462 ราย  เสียชีวิต 13 ราย 

ปี 2564  พบผู้ป่วย จำนวน 4,299 ราย  เสียชีวิต 3 ราย 

ปี 2565  พบผู้ป่วย จำนวน  5,199 ราย เสียชีวิต 6 ราย

ปี 2566 พบผู้ป่วย จำนวน 156,097 ราย เสียชีวิต 175 ราย

ปี 2567 พบผู้ป่วย จำนวน 26,511 ราย ผู้เสียชีวิตจำนวน 29 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พ.ค. 67) ทั้งนี้ หากดูจากตัวเลขปีนี้พบว่า สูงกว่าปีที่ผ่านมา ณ ช่วงเวลาเดียวกัน 1.6 เท่า

มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก

3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค และ 7 ร.

-เก็บบ้าน ให้สะอาดไม่ให้ยุงลายเข้ามาเกาะพัก

-เก็บภาชนะ กักเก็บน้ำให้มิดชิดเพื่อป้องกันยุงลายลงไปวางไข่

-เก็บขยะ ภายในบริเวณบ้าน โรงเรียน และวัด เช่น ขวด กระป๋อง ให้เรียบร้อยไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายจะสามารถ "ป้องกัน" โรคติดต่อนำโดยยุงลาย ได้ ได้แก่

  • โรคไข้เลือดออก
  • โรคไข้ปวดข้อยุงลาย
  • โรคติดเชื้อไวรัสซิกา

ปรับปรุงสิ่งแวดล้อม หรือ ทำกิจกรรม BIG CLEANING DAY เพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม สถานที่ ให้ปลอดโปร่ง สะอาด ไม่ให้เป็นที่เกาะพักของยุง 

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้กำหนดเป้าหมายในการดำเนินการป้องกันควบคุมโรคติดต่อนำโดยยุงลาย 7 สถานที่ หรือ 7ร. ได้แก่ 

  • โรงเรือน(บ้าน)
  • โรงเรียน
  • โรงพยาบาล
  • โรงแรม/ รีสอร์ท
  • โรงงาน/อุตสาหกรรม
  • โรงธรรม(วัด/มัสยิด/ศาสนสถาน)
  • สถานที่ราชการ

ที่มา: กรมควบคุมโรค, รพ.เวชศาสตร์เขตร้อน คณะเวชศาสตร์เขตร้อนมหาวิทยาลัยมหิดล