9 พฤศจิกายน 2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (Long Acting Antibody : LAAB) ว่า ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขนำ LAAB หรือชื่อการค้า Evusheld มาฉีดเพื่อป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อในกลุ่มผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำและร่างกายไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ด้วยวัคซีนจำนวนกว่า 6,300 ราย พบว่ามีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง
ส่วนการใช้เพื่อการรักษาเหมือนในต่างประเทศนั้น เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติขยายข้อบ่งใช้เพื่อการรักษาโรคโควิด 19 สำหรับผู้ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง ในกลุ่มผู้ใหญ่และวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ที่มีน้ำหนักตัวอย่างน้อย 40 กิโลกรัม โดยใช้ขนาด 600 มิลลิกรัม และได้มีการประชุมของคณะผู้เชี่ยวชาญ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาปรับปรุงแนวทางการใช้ LAAB และกำหนดไว้ในแนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาโรคโควิด 19 ฉบับใหม่ต่อไป
ผลการศึกษาวิจัยการใช้ LAAB ขนาด 600 มิลลิกรัม ฉีดเข้ากล้ามเนื้อผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลางที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต พบว่า การให้เพื่อการรักษาภายใน 5-7 วันหลังมีอาการ สามารถลดการเกิดโรครุนแรงหรือเสียชีวิตได้ 50-67% และสูงถึง 88% ถ้าได้เร็วรับภายใน 3 วันหลังเริ่มมีอาการ จึงเป็นข้อสนับสนุนในการนำภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปมาใช้เพื่อการรักษาอีกทางหนึ่ง นพ.โอภาสกล่าว
นพ.โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข กรมควบคุมโรค ได้หารือถึงการบริหารจัดการวัคซีนโควิด 19 และ LAAB หลังปรับลดเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง โดยมีแนวทางในการเบิกและจัดส่ง ดังนี้
1.กรมควบคุมโรคสำรวจความต้องการวัคซีนโควิด 19 และ LAAB (รอบปกติ) เดือนละ 1 ครั้ง ทุกวันที่ 20 ของเดือน โดยเป็นการเบิกล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน และให้จังหวัดรายงานความต้องการผ่านกองตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
2.กรมควบคุมโรคจัดส่งวัคซีนโควิด 19 และ LAAB รอบปกติ ภายในวันสุดท้ายของเดือนถัดไป
3.จังหวัดสำรองวัคซีนและ LAAB ที่มีอายุยาวอย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไป เพื่อป้องกันการหมดอายุ เนื่องจากหลังยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องจัดจ้างส่งวัคซีนตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง พ.ศ.2560 ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการจัดส่งเพิ่มขึ้น
4.การขอรับสนับสนุนวัคซีนและ LAAB เพิ่มเติม (นอกรอบปกติ) กรณีเร่งด่วน ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทำหนังสือถึงกรมควบคุมโรค ระบุชนิดและจำนวน รวมถึงวันเวลาที่ต้องการรับ และมารับที่คลังวัคซีนกรมควบคุมโรคโดยตรง
ส่วนกรณีที่มีวัคซีนสำรองอยู่ในจังหวัดหรือเขตสุขภาพ สามารถบริหารจัดการเกลี่ยวัคซีนที่มีอยู่ได้ตามความเหมาะสม ซึ่งหากเป็น LAAB จะใช้เวลาเตรียมการจัดส่งประมาณ 5 วัน