ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนกันแล้วโดยกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์สภาพอากาศตั้งแต่เมื่อสองวันที่ผ่านมาไทยได้เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนเป็นวันแรกและจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤษภาคมนี้ซึ่งนอกเหนือจากอากาศที่ร้อนจัดแล้ว โรคที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงนี้เป็นสิ่งที่เราต้องพร้อมรับมือ ป้องกันและหลีกเลี่ยงเพื่อดูแลสุขภาพตัวเองและคนที่คุณรักในช่วงนี้กันด้วย
1.โรคลมแดด (Heat Stroke)
สาเหตุ
เกิดจากร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป จนทำให้ความร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
อาการสำคัญ
- อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน
- ไม่มีเหงื่อออก กระหายน้ำมาก
- ตัวร้อนขึ้นเรื่อย ๆ หายใจเร็ว
- ความดันโลหิตต่ำ
- หากไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีอาจทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้
คำแนะนำ
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
- สวมแว่นกันแดด กางร่ม ทาครีมกันแดด SPF 15 ขึ้นไป
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
- ใส่เสื้อผ้าสีอ่อน ผ้าโปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี
- หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด
- เลือกออกกำลังกายช่วงเช้าและเย็น
2.โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ
โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน ซึ่งประกอบด้วย
- โรคอาหารเป็นพิษ
- โรคอหิวาตกโรค
- โรคบิด
- โรคไข้ไทฟอยด์
สาเหตุ
เกิดจากการรับประทางอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค การรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ การใช้น้ำคลองที่ไม่ผ่านการบำบัดอาจมีสิ่งปฏิกูลปะปน
อาการสำคัญ
ถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้ง/วัน หรือถ่ายเป็นน้ำจำนวนมาก หรือ เป็นมูกเลือดแม้เพียง 1 ครั้งต่อวัน ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
คำแนะนำและการป้องกัน
- เลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่
- เลือกซื้ออาหารที่สดและสะอาด
- ดื่มน้ำ เครื่องดื่ม และน้ำแข็งที่มีเครื่องหมายรับรองคุณภาพ (อย.)
- ควรล้างผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ให้สะอาด ก่อนนำมาปรุงอาหารหรือรับประทาน
- ล้างมือให้สะอาดก่อนเตรียม ปรุง และรับประทานอาหาร หรือหลังเข้าสุขา
- รักษาความสะอาดอุปกรณ์เครื่องครัว ห้องครัว และห้องสุขา
- ถ่ายอุจจาระในห้องสุขาที่ถูกสุขลักษณะ
3.โรคที่เกิดจากสัตว์เลี้ยง
- โรคพิษสุนัขบ้า หรือ โรคกลัวน้ำ
สาเหตุ
เกิดจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น สุนัข แมว ลิง ชะนี กระรอก กระแต ที่มีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า กัด ข่วน หรือเลียบาดแผล
อาการสำคัญ
เมื่อคนได้รับเชื้อแล้วจะมีอาการปรากฎภายใน 15-60 วัน บางรายอาจน้อยกว่า 10 วัน หรือนานเป็นปี ผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าจะเสียชีวิตทุกราย
คำแนะนำการป้องกัน
- นำสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นประจำทุกปี แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคเมื่อสุนัขและแมว อายุตั้งแต่ 2-4 เดือนขึ้นไป
- ระวังบุตรหลานไม่ให้เล่นคลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
- เมื่อถูกสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกัด ให้รีบล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง ใส่ยาฆ่าเชื้อ และรีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
- ควรกักขังสัตว์ที่กัดไว้อย่างน้อย 10 วัน เพื่อสังเกตอาการถ้าสัตว์ตายในระหว่างนี้ให้แจ้งสัตวแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อส่งสัตว์ที่ตายไปตรวจหาโรคพิษสุนัขบ้า
ข้อมูล กรุงเทพมหานคร