กระทรวงสาธารณสุข เชิญชวนประชาชนผู้ปกครองพาบุตร-หลาน ที่มีอายุ 0.9 – 12 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนครบกำหนดตามเกณฑ์เพื่อเข้ารับบริการฉีด "วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด คางทูม และหัดเยอรมัน (MMR) " ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดการป่วยและเสียชีวิตจากโรคดังกล่าวข้างต้น
ฉีดวัคซีนอย่างไร
ฉีดวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน จำนวน 2 เข็ม
- เข็มแรก ฉีดที่อายุ 9-12 เดือน
- เข็มที่ 2 ฉีดที่อายุ 18 เดือน
จุดให้บริการ
- โรงพยาบาลของรัฐ หรือ
- รพ.สต.ใกล้บ้าน หรือ
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
- สำนักอนามัย กทม.
โรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน คือ อะไร
โรคหัด
- เกิดจากเชื้อไวรัสหัด ทำให้มีไข้สูง น้ำมูกไหล ไอ ตาแดง และมีผื่นขึ้น
โรคคางทูม
- เกิดจากเชื้อไวรัสคางทูม ทำให้มีไข้ ต่อน้ำลายอักเสบ อัณฑะอักเสบ
โรคหัดเยอรมัน
- เกิดจากเชื้อไวรัสหัดเยอรมัน ทำให้มีไข้ ผื่น ต่อมน้ำเหลืองโต ส่วนใหญ่อาการมักไม่รุนแรงและหายได้เอง แต่การติดเชื้อหัดเยอรมันในหญิงตั้งครรภ์ จะส่งผลให้ทารกเกิดความพิการแต่กำเนิดหรืออาจทำให้ทารกตายในครรภ์ได้
โรคหัด คางทูมและหัดเยอรมัน เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่ายหากสัมผัสหรือใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่เป็นโรค
คุณสมบัติวัคซีน
ผลิตจากเชื้อไวรัส คางทูม และหัดเยอรมันที่ยังมีชีวิตแต่ทำให้อ่อนฤทธิ์ลงจนไม่สามารถก่อโรคได้ในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติและสามารถสร้างภูมิกันโรคได้ดี
บุคคลที่ไม่ควรได้รับวัคซีน
- เคยมีปฏิกิริยารุนแรง หรือ ปัญหาอื่นที่รุนแรงจากวัคซีนนี้มาก่อน
- มีไข้ ควรเลื่อนการรับวัคซีนออกไปก่อน
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังรับวัคซีน
- ปวด บวม แดงบริเวณที่ฉีด หลังรับวัคซีน 5-12 วัน อาจมีไข้ ผื่น ต่อมน้ำเหลืองโตและหายได้เองภายใน 2-3 วัน
- ในผู้ใหญ่พบมีอาการปวดข้อ อัณฑะอักเสบได้ และหายได้เองภายใน 1-3 สัปดาห์
- อาการแพ้รุนแรง ได้แก่ มีผื่นทั้งตัว หน้าบวม คอบวม หายใจลำบาก ใจสั่น วิงเวียนหรืออ่อนแรง
ข้อควรปฏิบัติ
- พักสังเกตอาการ นาทีหลังฉีดวัคซีน ณ สถานที่รับบริการและควรสังเกตอาการต่อที่บ้าน
- หากมีอาการข้างเคียงหลังจากได้รับวัคซีนควรแจ้งแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก่อนรับวัคซีนครั้งต่อไป
- หากปวด บวม บริเวณที่ฉีดให้ประคบด้วยผ้าเย็น และหากมีไข้ให้รับประทานยาลดไข้
- หากรับวัคซีนแล้วมีอาการแพ้รุนแรงควรรีบพบแพทย์ หรือ โทร. 1669
- ควรรับวัคซีนตามกำหนดและเก็บสมุดบันทึกการรับวัคซีนไว้ตลอดไป
- หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวัคซีนควรปรึกษาแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข