ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า โอมิครอนลูกผสม XBB.2.3 หรืออะครักซ์ (Acrux) กำลังจะเข้ามาแทนที่ โอมิครอน XBB.1.16 หรืออาร์คทูรัส (Arcturus)
ทั้งนี้ ศูนย์จีโนมฯให้ข้อมูลว่า อีกไม่นานจะได้ยินชื่อบรรดาลูกหลานของตระกูล โอมิครอน XBB กล่าวคือ XBB.2.3 ควบคู่ไปกับ XBB.1.5 (คราเคน/Kraken) ,XBB.1.9.1 (ไฮเปอเรี่ยน/Hyperion) และXBB.1.16
สำหรับโอมิครอนลูกผสม XBB.2.3 นั้น พบระบาดอย่างรวดเร็วในอินเดียและสิงคโปร์ โดยมีแนวโน้มจะมาแทนที่โอมิครอนลูกผสม XBB.1.16 และสมาชิกในตระกูล XBB ที่หมุนเวียนอยู่ในอินเดียและสิงคโปร์เร็วๆ นี้
อย่างไรก็ดี ในสหรัฐเริ่มพบการระบาดของโอไมครอน XBB.2.3 เช่นกัน ส่วนในไทยเพิ่งตรวจพบเพียง 6 ราย ยังไม่สามารถคำนวณหาค่าความได้เปรียบในการเติบโต-แพร่ระบาด (relative growth advantage) เทียบกับสายพันธุ์อื่นได้
โอมิครอนลูกผสม XBB.2.3 มาพร้อมกับการกลายพันธุ์ที่ส่วนหนาม S:T478K เหมือนกับสายพันธุ์เดลต้าในอดีต ที่ช่วยให้หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันของมนุษย์ได้ดี รวมถึงการกลายพันธุ์ส่วนอื่นที่ไม่ใช่ส่วนหนามคือ ORF7a:A13V พร้อมกับการขาดหายไปในส่วนของ Orf9
ศูนย์จีโนมฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลรหัสพันธุกรรมของโควิด-19 จากฐานข้อมูลโควิดโลก จีเสส (GISAID) พบผู้ติดเชื้อโอมิครอน XBB.2.3 ประกอบด้วย
อย่างไรก็ตาม อาเซียนพบการระบาดโอมิครอน XBB.2.3 มากที่สุดในสิงคโปร์ ส่วนอาการคลินิกในเบื้องต้นของโอมิครอน XBB.2.3 ประเมินว่าไม่แตกต่างจากโอมิครอนสายพันธุ์อื่น