นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า โรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคโลหิตจางชนิดหนึ่งเกิดจากความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง ทำให้เกิดภาวะซีดหรือโลหิตจาง สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้
นอกจากนี้ สาเหตุของภาวะซีดที่พบบ่อยเกิดจากการกินอาหารที่มีธาตเหล็กไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย การมีประจำเดือนออกมากเกินไป พบได้บ่อยในหญิงวัยรุ่นและวัยเจริญพันธุ์
และการตรวจพบหนอนพยาธิในร่างกาย เช่น โรคพยาธิปากขอ เพราะพยาธิปากขอดูดกินเลือดเป็นอาหาร โดยอาการของการขาดธาตุเหล็กประกอบด้วย หน้าตาซีดเซียว เยื่อบุตา ริมฝีปาก ฝ่ามือ และเล็กซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย โตช้า เรียนรู้ช้า
ทั้งนี้ จากข้อมูล Health Data Center กระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 พบว่า หญิงตั้งครรภ์ มีภาวะโลหิตจาง 31.2% และหญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 15 ถึง 49 ปี ที่ได้รับการคัดกรองภาวะโลหิตจาง ในขณะที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ พบภาวะโลหิตจาง 37%
ซึ่งสมัชชาอนามัยโลก Global Nutrition Targets ได้กำหนดเป้าหมาย ลดอัตราภาวะโลหิตจางของหญิงวัยเจริญพันธุ์ลงเหลือ 50% ภายในปี 2573
สำหรับการป้องกันการเกิดภาวะซีดหรือโลหิตจาง ที่นอกจากการให้ยาเม็ดเสริมธาตุเหล็กและกรดโฟลิกแล้ว กรมอนามัยยังแนะนำให้กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ดังนี้
อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียวอาจไม่ช่วยรักษาโรคโลหิตจางได้ หากมีภาวะซีดหรือสงสัยว่าเป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก อย่าปล่อยไว้จนอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุข หากจำเป็นต้องกินยาเม็ดเสริมธาตุเหล็ก ควรรับประทานอย่างต่อเนื่อง และตรวจเลือดติดตามผลตามคำแนะนำ